
23 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณีการหายตัวของ "น้องต่อ" วัย 8 เดือน ในพื้นที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เเม้ว่าเข้าวันที่ 18 เเล้ว แต่ยังไม่พบตัว ขณะที่การดำเนินคดีนั้น ตำรวจแจ้งข้อหาเอาผิดกับบุคคลที่ใกล้ชิดเเล้ว 2 ราย คือ นายสิทธิโชค หรือ พุด ผู้เป็นพ่อ เเละ นายเเจ้ อายุ 55 ปี ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (23 ก.พ.) ตำรวจ สภ.บางหลวง นำตัว นายสิทธิโชค แสงสว่าง หรือพุด อายุ 19 ปี เเละ นายสุรชัย หรือ เเจ้ ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดนครปฐม คัดค้านการประกันตัว
นายพุด ตำรวจแจ้งข้อหา "เป็นธุระจัดหาให้กระทำการค้าประเวณี" หลังรับสารภาพว่าหลอก น.ส.นิ่ม ซึ่งขณะนั้นอายุ 15 ปี ไปขายบริการกับเพื่อนพ่อ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว และแจ้งข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และ พรากผู้เยาว์ ส่วน "นายแจ้" เพื่อนสนิทของพ่อนิ่ม ถูกแจ้งข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และพรากผู้เยาว์ เนื่องจากซื้อบริการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนำตัวไปส่งศาลฝากที่ศาลจังหวัดนครปฐม นายสุบิน (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี พ่อของพุด ได้เดินเข้าให้กำลังใจลูกชาย โดยได้เข้าสวมกอดทั้งน้ำตา ซึ่งนายพุดก็ตกใจที่พ่อสวมกอดตัวเอง และได้ปลอบใจพ่อว่า "ไม่ต้องร้องไห้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง"
นายสุบิน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจมากจนพูดอะไรไม่ออก ที่ลูกชายถูกแจ้งข้อหา ที่ผ่านมาตนพยายามเตือนลูกชายแล้ว ให้ออกห่างจากนิ่ม แต่ลูกชายรักเมียคนนี้มาก จากเหตุการณ์ทั้งหมดตนมองว่า ลูกสะใภ้ไม่ยอมพูดความจริง ถ้าพูดความจริงคงจบเรื่องไปนานแล้ว หลังจากนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตนไม่มีเงินไปประกันลูกชาย คงต้องปล่อยไปตามยถากรรม
ขณะที่ น.ส.นิ่ม เเม่ของน้องต่อ นำเสื้อผ้า ขนม เเละเงินสด10,000บาท มาให้นายพุด ต่อมาไม่นาน นางจำเนียร ทองทรัพย์ใหญ่ หรือป้าเนียร แม่ของพุด เอาข้าวกล่อง 2 กล่อง พร้อมกันน้ำดื่ม มาเยี่ยมลูกชาย
ป้าเนียร ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกับลูกชาย จนน้ำตาคลอ สีหน้าเคร่งเครียด พร้อมได้ต่อว่า "นิ่ม" บอกว่า
“มีแต่ตัวมึงเองเท่านั้นแหละที่รู้ดีทุกอย่าง ถึงเวลาที่ต้องพูดแล้ว มึงทำคนอื่นเขาลำบากมามาก อยากให้ผัวต้องติดคุกหรือ”
ทั้งนี้ น.ส.นิ่ม ตอบกลับไปว่า “สงสารแต่หนูไม่รู้จริงๆ และ ไม่ได้อยากให้พุดติดคุก”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะนำตัวไปฝากขัง ทั้งนายพุด และนายแจ้ มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ปัดตอบคำถามสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายพุด บอกว่า ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับนิ่ม วานนี้มีการสอบถามเรื่องชายเสื้อเหลือง นิ่มบอกตนเองว่า เรื่องชายเสื้อเหลือง เป็นเพียงแค่การคิดไปเอง แต่เรื่องลูกหาย ยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง
"ส่วนตัวไม่สามารถบอกได้ว่า นิ่มโกหกหรือไม่ เพราะนิ่มอาจจะพูดความจริงก็ได้ ซึ่งผมก็ยังเชื่อนิ่มอยู่ ไม่ว่านิ่มจะโกหกหรือไม่ ผมก็ยังรักอยู่ และไม่ได้ซวยเพราะผู้หญิงคนนี้"
นายพุด ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพยายามบอกนิ่มแล้วว่าให้พูดเท่าที่ตนเองรู้ และยังเชื่อว่าที่น้องต่อหายตัวไป เพราะคนนอก ส่วนคราบเลือดที่ติดอยู่บนรถจยย. ก็ไม่รู้จริงๆว่าเป็นเลือดของใคร เพราะรถจยย.ในบ้านมี2คัน เป็นของตนเอง 1 คัน และอีกคันเป็นของพี่ชาย เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้แจ้งว่าคันที่นำไปตรวจสอบเป็นคันไหนกันแน่
ขณะที่นายแจ้ บอกว่า ยอมรับความจริงทุกอย่าง เพราะเรื่องมาถึงป่านนี้เเล้ว กังวลมากเพราะที่บ้านไม่มีใครดูแลแม่ และยังเป็นห่วงน้องต่อ ลูกชาย อยากให้เจ้าหน้าที่เจอน้องโดยเร็ว ซึ่งตอนนี้ พระลูก ก็ไปรอที่ศาลแล้ว ไม่รู้จะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อไป