"บิ๊กโจ๊ก" รับคดี "น้องต่อ" ไม่ธรรมดา สั่งแจ้งข้อหาอาญา "พุด - ลุงแจ้"

22 กุมภาพันธ์ 2566 ความคืบหน้าคดี "น้องต่อ" หายตัวปริศนา โดยเจ้าหน้าที่จากหลายภาค ยังคงเดินหน้าค้นหาต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทำได้เพียงนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปสอบปากคำ ล่าสุดตำรวจได้นำ "นายพุด" และ "น.ส.นิ่ม" พ่อและแม่น้องต่อ ไปเข้าเครื่องจับเท็จ ขณะที่ "บิ๊กโจ๊ก" สั่งตำรวจเร่งสางคดี พร้อมนำแม่ตรวจจิตเวช คาดผลออกพร้อมกับการประเมินผลเครื่องจับเท็จ มั่นใจบุคคลใกล้ชิดยังพูดความจริงไม่หมด 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• "บิ๊กโจ๊ก"เร่งสางคดี"น้องต่อ"หายตัว นำแม่ตรวจจิตเวช มั่นใจปิดคดีเร็วๆนี้
• ตร.ค้นบ้าน "หรั่ง" หาจักรยานคันอุ้มหาย "น้องต่อ"
• "พุด" ไม่สนดีเอ็นเอ "น้องต่อ" ลูกใคร ขอเจอตัวก่อน

 

ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ที่ สภ.บางหลวง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดคดี "น้องต่อ" มี พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.บางหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รายงานเหตุการที่เกิดขึ้น 
 

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า การสอบสวนวันนี้ ยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปกว่าเมื่อวาน (21 ก.พ.) ผู้ที่เกี่ยวข้องยังไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้น เบื้องต้นตำรวจจะไล่ดำเนิคดี จากการกระทำผิดคดีอาญาในเรื่องนี้ นอกจากตัว น.ส.นิ่ม ผู้เป็นแม่แล้ว ตำรวจจะดำเนินคดีอาญากับ "นายพุด" พ่อของ "น้องต่อ" เรื่องของการขายบริการ การจัดหา โดยให้ภรรยาตัวเองหรือ "น.ส.นิ่ม" ไปขายบริการให้กับเพื่อนพ่อ และเอาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว เพราะว่า "น.ส.นิ่ม" เพิ่งอายุ 15 ปี เป็นความผิดที่พบเป็นของนายพุด 
 

และอีกส่วนหนึ่งความผิดที่พบคือ "นายแจ้" ที่ไปมีความสัมพันธ์ทางเพศ กับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นการกระทำชำเราพรากผู้เยาว์ ซึ่งวันนี้การแจ้งข้อหาคดีอาญา จึงมีอยู่ 2 คน ส่วนตัว "น.ส.นิ่ม" นั้น น้ำหนักทั้งหมดตกมาอยู่ที่ "น.ส.นิ่ม" ในส่วนข้อมูลสืบสวนสอบสวน ทางตำรวจไล่มาหมดแล้ว ในส่วนตัวละครอื่น ๆ ก็ไม่มีใคร 

"น.ส.นิ่ม" ยอมรับแล้วว่า อุปโลกน์เรื่องคนเสื้อเหลืองขึ้นมา เพียงแต่ว่าเจ้าตัวยังไม่ยอมรับว่า เอาลูกไปไว้ที่ไหน หรือเอาลูกไปทำอะไรให้ใครเลี้ยง

ตอนนี้ตำรวจได้สอบปากคำหมอถึง 3 ปาก ทางหมอยืนยันตรงกันว่า "น้องต่อ" มีอุณหภูมิร่างกายขึ้นสูง 39 องศาฯ และแนะนำให้พา "น้องต่อ" ไปโรงพยาบาล แต่เจ้าตัวไม่ไป แต่เอากลับบ้าน ส่วนสาเหตุเหล่านี้เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับเด็กทั้งสิ้น แลยังไม่ยืนยันว่า เด็กเสียชีวิตหรืออะไรทั้งสิ้น โดยตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมอีกบางส่วน และพยายามให้เหลือวงแคบมากขึ้น ใกล้จบข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ และการตรวจสอบพิกัดทางโทรศัพท์เหลืออีกนิดเดียว

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสอบถาม "น.ส.นิ่ม" ยังไม่ยอมบอกอะไร บอกว่าไม่รู้อย่างเดียว ตำรวจต้องใช้พยานหลักฐาน แต่วันนี้สิ่งที่แม่เด็กพูดทั้งหมด ก็คือเรื่องเท็จ เมื่อวานพูดอย่าง วันนี้พูดอีกอย่าง พูดแต่ละวันไม่ตรงกัน น้ำหนักของเรื่องทั้งหมดอยู่ที่ตัวแม่เด็กหลัก ๆ เลย แม่เด็กทุกคนต้องรักลูก วันนี้แม่ไม่มีการร้องไห้ ไม่มีการเสียน้ำตา

ทางด้านตัว "นายพุด" ต้องเครียดแน่ ส่วน "นายแจ้" ทางตำรวจจะแจ้งข้อหาในวันพรุ้งนี้ (23 ก.พ.) ในเรื่องของเด็กต้องมีการสอบร่วมกับอัยการก่อน ถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ ส่วนวันนี้แจ้งข้อหา "นายพุด" ก่อน วันนี้ทางตำรวจได้สอบพ่อ แล้วในฐานะเป็นผู้เสียหาย เขารับสารภาพหมดในข้อเท็จจริง
 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับ รองผู้บัญชาการ , ผู้บังคับการภูธรจังหวัดนครปฐม คาดว่า ตำรวจจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อไล่ข้อมูลทั้งหมด ในช่องว่างที่หายไป

สิ่งที่พบแล้วก็คือ แม่ "น้องต่อ" พูดกลับไปกลับมา ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตำรวจก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน และยังไม่ได้แจ้งข้อหา "น.ส.นิ่ม" จึงปล่อยตัวกลับบ้านไปก่อน

ส่วนกรณีชายเสื้อเหลือง ในทางสืบสวน ตำรวจไม่พบเช่นกัน ตอนนี้ "น.ส.นิ่ม" จนทุกพยานหลักฐาน เช่นเขาอ้างว่า ตื่นมาตอนตี 3 เพื่อชงนมให้ลูก แต่ไม่เห็นการต้มน้ำร้อน และไม่มีเสียงเด็กร้อง ยอมรับว่า คดีนี้ไม่เหมือนคดีอื่น คนเป็นแม่ต้องห่วงลูก แต่คดีนี้แม่ให้การไม่ตรง ปกปิดข้อมูลคนรอบข้าง ทั้งที่แม้กระทั่งนายพุด ก็ยังไม่มีอะไรที่ปกปิดเช่นนี้