svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สาวร้องถูก ร.ต.อ. รีดเงินแสนแลกทำคดี "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น" ขาดอายุความ

15 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สาวพาสามี ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกตำรวจยศ “ร.ต.อ.” รีดเงินแสนแลกทำคดี ข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น” ให้ขาดอายุความ เหยื่อ เผย คดีผ่านไป 8 ปี ทั้งที่ยืนยันความบริสุทธิ์ ขอต่อสู้คดี นายตำรวจกลับหว่านล้อมให้กู้หนี้มาจ่าย ด้าน เอกภพ เตรียมปรึกษา กระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือ

15 มกราคม 2566 นางสาวกันติชา (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย พร้อมสามีและเพื่อนสามี เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เรียกรับสินบนเพื่อปิดคดี

สาวร้องถูก ร.ต.อ. รีดเงินแสนแลกทำคดี "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น" ขาดอายุความ

นางสาวกันติชา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงวันที่ 15 เม.ย.2558 เกิดเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นยกพวกทำร้ายร่างกายกัน แถวห้างซุปเปอร์มาร์เก็ต ในซอยสุขุมวิท 93 จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต่อมามีผู้ที่เข้าไปแจ้งความกล่าวหาว่า สามีและเพื่อนของสามีตนเองเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว 

โดยตำรวจ มีการดำเนินการเรียกไปสอบถาม ก่อนจะมีการแจ้งข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น” เพราะพยานที่เห็นเหตุการณ์ มีการชี้ตัวสามีและเพื่อน ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกาย จนช่วงปลายปี 2559 ตำรวจได้นำหมายจับ ลงวันที่ 22 เม.ย.2558 เข้ามาจับกุม สามีตนเองที่บ้านน้องสาว 

ตอนนั้น พ่อของสามีได้ให้สมุดบัญชีธนาคาร ภายในมีเงินจำนวน 300,000 บาท ไว้ใช้เป็นหลักในการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี เพราะสามียืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก่อนจะมาทราบภายหลังว่า เพื่อนของสามีที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เนื่องจากไปซื้อของที่ห้างดังกล่าว พร้อมกับสามี ได้ถูกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ติดต่อนัดหมายกัน เข้าไปพบหลังเกิดเหตุได้ประมาณ 1 สัปดาห์

โดยทางตำรวจติดต่อได้จากการตรวจสอบพบกระเป๋าสตางค์ที่ตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เพราะในวันดังกล่าว เพื่อนของสามีถูกรุมทำร้ายขณะที่กำลังออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ทำให้ต้องวิ่งหลบหนีขึ้นจยย. และเสียหลักล้มลง ทำให้กระเป๋าตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ

สาวร้องถูก ร.ต.อ. รีดเงินแสนแลกทำคดี "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น" ขาดอายุความ

ทั้งนี้ ทางตำรวจ ได้อ้างว่าได้มีการทำสำนวนส่งฟ้องในคดีนี้ ซึ่งจะต้องถูกคุมขังหากไม่อยากถูกคุมขัง ต้องยื่นประกันตัว ในวงเงินจำนวน 30,000 บาท ซึ่งเพื่อนของสามี ก็ดำเนินการจ่ายเงินจำนวน 30,000 บาท ในห้องน้ำของโรงพัก เพราะเข้าใจว่าเป็นเงินประกันตัว ที่ใช้ในการต่อสู้คดี แต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้ว ก็ถูกปล่อยตัวโดยไม่มีการเขียนเอกสาร หรือเซ็นรับทราบใดๆ

หลังจากที่มีการประกันตัวสามี ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 มาจนถึงเมื่อช่วงวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนคนเดิม ได้มีการติดต่อกลับมาอีกครั้ง โดยมีการเรียกขอเงินจำนวน 100,000 บาท โดยอ้างว่าจะเป็นการช่วยทำคดีให้ขาดอายุความ เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดี ในฐานความผิด “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น” ซึ่งตนเองได้พยายามชี้แจงกับทางตำรวจว่า ไม่มีเงิน ซึ่งพร้อมที่จะปล่อยให้ขั้นตอนทางคดีเป็นไปตามขั้นตอนยุติธรรม เพราะยืนยัน และมั่นใจในความบริสุทธิ์ของสามี 

รวมถึง ยังได้พยายามอธิบายกับทางตำรวจว่า ทางครอบครัวไม่มีเงิน แต่ตำรวจนายนี้ได้พยายามพูดจาให้ตนเองไปหากู้เงินมาให้ โดยตนเองได้บันทึกคลิปขณะที่มีการโทรมา ของพนักงานสอบสวนคนนี้เอาไว้เป็นหลักฐาน และตนเองยังทราบด้วยว่า ในส่วนของพยานที่มีการชี้ตัวสามีตนเอง ว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุนั้น แต่ที่จริงแล้วไมได้เป็นคนที่เห็นสามีตนอยู่ในเหตุการณ์ แต่เป็นเพราะกลุ่มของพยาน ซึ่งเป็นคนในซอยเดียวกันกับสามี ไม่ถูกกันอยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงทำให้ถูกบังคับ จากคนในซอยให้ชี้ตัวมาที่สามีของตนเอง

วันนี้ (15 ม.ค.2566) จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือ เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะตำรวจมีการติดต่อมาที่ตนเอง เพื่อเรียกเงิน ทั้งที่ตนเองเป็นภรรยาของสามี และก็พร้อมให้สามีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จึงเกรงว่าอาจจะถูกตรวจสอบไปถึงคนในครอบครัวอื่นๆ และอาจถูกคุกคาม หากไม่ยอมจ่ายเงินให้ตามที่มีการร้องขอ

ขณะที่นายเอ (นามสมมติ) สามีของนางสาวกันติชา ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุทะเลาะวิวาท ตามที่กล่าวอ้าง โดยในช่วงเกิดเหตุตนเองและเพื่อนเดินทางไปที่ห้าง เพื่อซื้อของมาเตรียมกินเลี้ยงกันที่บ้าน แต่ขณะที่กำลังจะออกจากห้าง ได้เกิดเหตุวิวาทกัน และมีบางส่วนวิ่งเข้ามาภายในห้าง ตนเองกับเพื่อนจึงแยกย้ายกันหลบหนี เพราะเกรงว่าจะโดนลูกหลง 

ซึ่งสังเกตว่า หนึ่งในกลุ่มที่ก่อเหตุนั้น เป็นกลุ่มที่ตนเองเคยมีปัญหากันมาก่อน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนขี่จยย.หลบหนีออกมาได้ แต่เพื่อนกลับถูกต้อนกลับไปในห้างและถูกทำร้าย ก่อนจะมีคนเข้ามาห้ามว่า เพื่อนตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จนมาถูกตำรวจดำเนินการออกหมายจับดังกล่าว

สาวร้องถูก ร.ต.อ. รีดเงินแสนแลกทำคดี "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น" ขาดอายุความ

ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งการเดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับทางสายไหมต้องรอดในวันนี้ ตนเองได้บอกกับทางผู้เสียหายว่า ต้องยอมรับว่า จะเป็นทั้งผลดี และผลเสียทั้งสองด้าน เพราะผลดีเรื่องนี้จะได้รับการช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการตรวจสอบ และดำเนินการลงโทษตำรวจที่ทำผิดกฏหมาย 

แต่ในส่วนของผลเสียในเรื่องของคดีความที่มีอยู่ ต้องยอมรับว่า จะมีการถูกตรวจสอบมากขึ้น และเรื่องอาจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตรงนี้ ต้องเป็นฝั่งของทางผู้เสียหาย ที่ดำเนินการเคลียร์เรื่องของข้อกล่าวหาดังกล่าวด้วยตนเอง และพยานหลักฐานที่มี โดยตนจะนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือในกรณีดังกล่าวอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ ที่ผู้เสียหาย ได้มีการบันทึกคลิป ขณะมีการพูดคุยกับปลายสายที่อ้างตัวว่าเป็น พนักงานสอบสวน พบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ตรงกับ นายตำรวจยศ “ร.ต.อ.” นายหนึ่ง ขณะนี้ดำรงตำแหน่งเป็น รองสว.(สอบสวน) สน.พระโขนง สังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)
 

logoline