19 ธันวาคม 2565 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายสันติภาพ อรุณวราภา ผู้อำนวยการกองบริการผู้ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง สาขานวลจันทร์ พร้อมกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม นำหมายค้น เข้าค้นอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในซอยลาดปลาเค้า 46 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ หลังตรวจสอบพบมีการลักลอบใช้ไฟฟ้า โดยการต่อตรงไม่ผ่านมิเตอร์ไฟฟ้า คาดว่าจะเป็นการลักลอบนำไปใช้ต่อกับเครื่องขุดบิตคอยน์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เมื่อตรวจสอบด้านหน้าอาคารพบว่า มีการทำฝ้าครอบสายไฟไว้ ไม่ให้เห็นจุดต่อของสายไฟ ปลายสายถูกลากเข้าไปในตัวอาคาร โดยชั้นที่ 1 ถึงชั้น 3 เป็นห้องโถงโล่ง แต่มีการเจาะพื้นเป็นรู เพื่อร้อยสายไฟขึ้นไปที่ชั้น 4 ซึ่งมีการดัดแปลงเป็นห้องเก็บเสียง ติดตั้งพัดลมระบายความร้อน จำนวน 4 ตัว ไว้ด้านหลังชั้นวาง ที่มีการเดินสายแลน และปลั๊กไว้ ประมาณ 200 คู่ แต่ไม่พบเครื่องขุดบิตคอยน์ คาดว่า จะถูกถอดไปก่อนหน้านี้ จึงทำการตรวจยึดกล้องวงจรปิดไว้ 2 ตัว และเลาเตอร์อินเตอร์เน็ต 1 เครื่อง ไว้เป็นของกลาง
สอบถามเจ้าของอาคาร ระบุว่า ตึกนี้ได้ให้ หญิงรายหนึ่ง เช่าเดือนละ 6,000 บาท ซึ่งเช่ามานานกว่า 3 ปี จ่ายค่าเช่าตามปกติ ล่าสุดเพิ่งจ่ายค่าเช่ามาเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา และไม่ทราบว่ามีการดัดแปลงสถานที่ ใช้เป็นที่ตั้งเครื่องขุดบิตคอยน์
นายสันติภาพ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบวันนี้ พบหลักฐานเป็นอุปกรณ์ ซึ่งยืนยันได้ว่า จุดนี้มีการลักลอบใช้ไฟฟ้า ในการขุดบิตคอยน์ และเชื่อว่า ผู้กระทำผิดน่าจะไหวตัวทัน จึงถอดเครื่องขนหลบหนีไปก่อน สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ที่ กฟน. ได้ร่วมกับ ดีเอสไอ ตรวจค้นครั้งแรก ใน 3 เขตการไฟฟ้าเขตนนทบุรี การไฟฟ้าเขตบางบัวทอง และการไฟฟ้าบางใหญ่ จำนวน 41 จุด
ต่อมาทาง ผู้ว่าการฯ ได้ออกคำสั่งให้การไฟฟ้าทุกเขตตรวจสอบในพื้นที่ว่ามีกระทำในลักษณะเดียวกันด้วยหรือไม่ โดยทางการไฟฟ้า เขตนวลจันทร์ ได้ทำการตรวจสอบ โดยการจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า มีการกระทำผิด 4 จุด โดยจุดนี้เป็นจุดแรก ซึ่งหลังจากนี้จะมีการลงตรวจจุดที่เหลือต่อไป
ในส่วนความผิดของการลักลอบใช้ไฟฟ้า ตามกฎหมาย ถือว่าเป็นอาญาแผ่นดิน ซึ่งจะฟ้องแพ่ง หรือฟ้องอาญาก็ได้ ซึ่งจะต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุย หากมีการยอมรับ ก็อาจจะฟ้องแพ่ง อย่างไรก็ตามฝากไปยังเจ้าของอาคาร ที่ให้บุคคลอื่นมาเช่า ควรจะระมัดระวังซึ่งอาจจะมีมิจฉาชีพ ที่มาเช่าเพื่อทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือมาแอบต่อกระแสไฟฟ้าไปใช้ขุดบิตคอยน์ ขณะที่ประชาชนทั่วไป อาจจะมองว่า การทำแบบนี้อาจจะมีโทษที่ไม่รุนแรง ซึ่งจริง ๆ แล้ว มีโทษทางอาญา ในข้อหา “ลักทรัพย์ใช้ไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” ด้วย
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า สถานที่แห่งนี้ มีความเชื่อมโยงกับจุดที่เคยมีการเข้าตรวจค้นใน ซอยศูนย์การแฮปปี้แลนด์ สาย 2 ที่มีร่องรอยการลักใช้ไฟฟ้า โดยการต่อตรง ซึ่งผู้ที่เช่าอาคารทั้ง 2 แห่ง เป็นคน ๆ เดียวกัน หลังจากนี้จะเร่งขยายผลไปยังจุดอื่น ๆ และติดตามตัวมาดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป