
เมื่อเอ่ยถึง "เหตุโศกนาฏกรรม" เชื่อมั่นว่า ย่อมเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครในโลกใบนี้ต้องการให้เกิดขึ้น เพราะนั่นหมายถึง การนำมาซึ่งความสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนยังทิ้งร่องรอยบาดแผล ตอกย้ำความเจ็บปวดในทุกความทรงจำ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพจิต ทั้งครอบครัวของผู้สูญเสีย ผู้รอดชีวิต หรือผู้คนในสังคมที่ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเหล่านั้น
ล่าสุด ประเด็นร้อนสะท้านโลกล่าสุด เหตุโศกนาฏกรรมอิแทวอน ทีมข่าวฐานเศรษฐกิจ ได้ทำการรวบรวมเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ที่เกิดความสูญเสียจำนวนมาก มีจำนวนผู้เสียชีวิตเกินกว่า 100 ราย ที่ได้เกิดขึ้นในปี 2565 มารายงานให้คอข่าวชาวเนชั่นออนไลน์ ได้ร่วมรำลึกถึงถึงเหตุการณ์สุดเศร้าเหล่านั้นอีกสักครั้ง!!
ทบทวนเหตุสลดใจ เปิดไทม์ไลน์เหตุโศกนาฏกรรมที่ทำให้คนทั้งโลกแทบช็อก!!
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565
เกิดเหตุเบียดเสียดและเหยียบกันจนเสียชีวิต จากการที่ตำรวจควบคุมจลาจลพยายามควบคุมสถานการณ์ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาในสนามกีฬากันจูรูฮัน ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากแฟนบอลได้ก่อเหตุประท้วงจนเป็นการจลาจลภายในสนามกีฬาดังกล่าว
เหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิต 131 ราย(รายงาน ณ วันที่ 4 ต.ค. 2565) และผู้ได้รับบาดเจ็บ 547 ราย (รายงาน ณ วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2565) ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นภัยพิบัติเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลที่มีผู้เสียชีวิต เป็นอันดับที่สองของโลก รองจากภัยพิบัติที่สนามกีฬาแห่งชาติในเปรู เมื่อ พ.ศ. 2507 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 328 คน
วันที่ 29 ตุลาคม 2565
เกิดเหตุเบียดเสียดและเหยียบกันจนเสียชีวิต ในช่วงงานเทศกาลฮัลโลวีนที่อิแทวอน ประเทศเกาหลีใต้ รายงานระบุว่า สาเหตุเกิดจากการเบียดเสียดของฝูงชนราว 1แสนคน บนถนนแคบๆเป็นทางลาดยาว 40 เมตร กว้าง 4 เมตร เมื่อมีคนเริ่มล้มจากด้านบน ทำให้ฝูงชนล้มเป็นโดมิโนทับกัน ข่าวสื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า มีข้อความฉุกเฉินถูกส่งเข้าโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องในเขตยงซาน ที่ตั้งของย่านอิแทวอน แจ้งเตือนให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินบริเวณใกล้ ๆ กับโรงแรมฮามิลตันในอิแทวอน เหตุการณ์นี้มี ผู้เสียชีวิต 153 ราย และ ได้รับบาดเจ็บ 82 ราย (รายงาน ณ วันที่ 30 ต.ค. 2565)
วันที่ 31 ตุลาคม 2565
เกิดเหตุสะพานแขวนข้ามแม่น้ำมัจฉุ ในรัฐคุชราต ประเทศอินเดียถล่ม สาเหตุจากสะพานขึงเก่าแก่อายุนับรน้อยปีนี้ รับน้ำหนักมวลชนไม่ไหว โดยสะพานนี้เพิ่งกลับมาเปิด ได้เพียง 4วัน หลังจากปิดซ่อมบูรณะไปนานกว่า 6 เดือน เหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 141 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ร่วม 100 ราย (รายงาน ณ วันที่ 31 ต.ค. 2565)
วันที่ 31 ตุลาคม 2565
เกิดเหตุสะพานแขวนข้ามแม่น้ำมัจฉุ ในรัฐคุชราต ประเทศอินเดียถล่ม สาเหตุจากสะพานขึงเก่าแก่อายุนับรน้อยปีนี้ รับน้ำหนักมวลชนไม่ไหว โดยสะพานนี้เพิ่งกลับมาเปิด ได้เพียง 4 วัน หลังจากปิดซ่อมบูรณะไปนานกว่า 6 เดือน เหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 141 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ร่วม 100 ราย (รายงาน ณ วันที่ 31 ต.ค. 2565)
มาดูแผนการรับมือเหตุสลดในเมืองไทยกันบ้างในช่วงนี้
อีกความคืบหน้า ทางด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กรณี กทม.เตรียมจัดงานเทศกาลหลายงานในช่วงนี้ว่า ได้มอบหมายฝ่ายเกี่ยวข้อง วางมาตรการรักษาความปลอดภัยหลังเกิดโศกนาฏกรรม เหยียบกันตายในงานฮัลโลวีนที่ย่าน “อิแทวอน” กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
โดยในส่วนของ กทม.หลายพื้นที่เตรียมจัดงานลอยกระทง และได้กำชับให้ทุกพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการที่ทางเข้า-ออก ตรวจนับจำนวนคนภายในงาน และถ้าเป็นไปได้ จะให้กล้องซีซีทีวีช่วยจับจำนวนคน เน้นเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่เน้นเรื่องขายของ รวมทั้งไม่ให้มีการละเล่นในพื้นที่จัดงาน จะให้ออกห่างจากพื้นที่และจัดในที่โล่ง กทม.ไม่ได้กังวลเรื่องการเบียดกันจนเสียชีวิต เพราะการเบียดและตกน้ำอันตรายกว่า ซึ่งทุกเขตที่จัดงานลอยกระทงต้องทำแผนเผชิญเหตุ
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า พื้นที่ที่น่าห่วงที่สุด คือคลองโอ่งอ่างที่อยู่ริมน้ำ แต่ กทม.มีกล้องซีซีทีวีคอยจับความหนาแน่นของระชาชนที่เดินทางร่วมงาน ซึ่งหากตรวจจับได้ว่ามีความหนาแน่นเกินไปก็จะไม่ให้เข้าและให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรือรอจนกว่าจะสามารถเข้าได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราเห็นจากเหตุการณ์ที่เกาหลีใต้ จะพบว่าประชาชนสามารถ ทำการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน หรือการทำซีพีอาร์ กทม.ได้สอนในเรื่องนี้ และในอนาคตจะให้โรงเรียนในสังกัดกทม. มีหลักสูตรเกี่ยวกับการทำซีพีอาร์อย่างจริงจัง แม้เป็นเรื่องเล็กๆ แต่พอเกิดเรื่องมาจะเป็นเรื่องใหญ่ ถือว่ามีความสำคัญ
เมื่อถามว่า ได้มีการกำชับอะไรเกี่ยวกับการจัดงานฮาโลวีนในคืนนี้หรือไม่
นายชัชชาติ กล่าวว่า ได้สั่งการไปหมดแล้ว และช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาได้สั่งตรวจสอบสถานประกอบการทั้งหมด เพราะเรากังวลเรื่องทางเข้าทางออก จึงต้องเคร่งครัดให้มากขึ้น สภาพพื้นที่ของเราอาจไม่เหมือนที่อิแทวอน เกาหลีใต้ แต่มีที่สีลมซอย 2 ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันคือมีทางเข้าที่แคบและมีร้านค้าหลายร้านอยู่ภายใน จึงต้องไปดูจุดเสี่ยงต่าง ๆ โดยให้ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.เข้าไปดูจุดเสี่ยงต่าง ๆ คิดว่าทางเขตมีข้อมูลอยู่ ซึ่งผู้ประกอบการให้ความร่วมมือดีมาก ทุกคนเข้าใจว่าหากเกิดเหตุขึ้นมาจะมีความรุนแรงมาก จึงต้องเริ่มตั้งแต่มาตรการป้องกัน
ขอขอบคุณที่มา
“ชัชชาติ” เผย “สีลม ซ.2” จุดเสี่ยง กทม.คล้าย “อิแทวอน” สั่งคุมเข้มจัดกิจกรรม
ขอขอบคุณที่มา ฐานเศรษฐกิจ