"บิ๊กโจ๊ก" เผยพบไทม์ไลน์ "แอม" สั่งซื้อ "ไซยาไนด์" มั่นใจเอาผิดได้

6 พฤษภาคม 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนคดี "แอม ไซยาไนด์" ว่า ผลการตรวจค้นบ้านแอมเพิ่มเติม พบหลักฐาน ที่สามารถเชื่อมโยงได้แล้วว่า "แอม" มีการสั่งซื้อ ไซยาไนด์ มาด้วยตัวเอง และรับยาเอง แต่อ้างชื่อคนอื่น จ่าหน้ารับไซยาไนด์ เพื่ออำพรางการตรวจสอบ เท่านั้น จึงเชื่อว่า มีผู้ช่วยเหลือ และผู้ช่วยเหลือย่อมรู้วิชาสอบสวน  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• บิ๊กโจ๊ก มั่นใจ คดี "แอม ไซยาไนด์" หลักฐานมัดแน่นเอาผิดได้
• เปิดใจ พ่อ "แอม ไซยาไนด์" รู้สึกกดดัน สังคมมาลงที่พ่อแม่
• เปิดคลิป ทนาย"แอม ไซยาไนด์" อ้างมีหลักฐาน ลูกความไม่ได้สังหาร"ก้อย เท้าแชร์"

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้การสืบสวนสอบสวน ทำมาอย่างรัดกุม ไม่กังวลในพยานหลักฐาน ที่จะมัด "แอม" แม้ว้าผู้ต้องหาจะไม่ให้การ ก็ไม่ใช่ปัญหาในการเอาผิด และยังจะขยายผล ไปถึงผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลือ เช่น พยายามตัดช่องเวลาบางส่วนไป ส่งของไปให้คนอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

ซึ่งวันนี้ เรามีข้อมูลในส่วนนี้แล้ว แต่จะใช่อดีตสามีหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน  ส่วนจะเอาผิดฐานร่วมกันฆ่าได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานก่อน” คาดว่า จะสามารถออกหมายจับได้ 1-2  คน 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางคดีหลังจากนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดบุคคลใกล้ชิดที่คอยให้การช่วยเหลือ การออกหมายจับในคดีพื้นที่ สน.ทองหล่อ ที่เหลืออีก 1 คดี การดำเนินคดีกับบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการสั่ง "ไซยาไนด์" และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ทุจริตหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยให้บุคคลทั่วไป สั่งซื่อไซยาไนด์ได้ เพราะไซยาไนด์ เป็นสารเคมีควบคุม คนทั่วไปไม่สามารถสั่งซื้อได้ ในส่วนของการสอบพยานบุคคลต่าง ๆ ขณะนี้มีการสอบปากคำ จนเกือบจะครบถ้วนแล้ว
 

“หากคดีในพื้นที่ สน.ทองหล่อ สามารถออกหมายจับได้ ก็จะทำให้คดีที่รับเรื่องตอนนี้ทั้งหมด มีการออกหมายจับครบถ้วน 14 คดี ส่วน อีก 2 - 3 กรณีการเสียชีวิตปริศนา ที่เพิ่งรับข้อมูลมานั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

ขณะที่ในส่วนของการสอบปากคำ "แอม ไซยาไนด์" แม้เจ้าตัวจะยังไม่ยอมให้การ ก็ไม่ได้หนักใจ เพราะเรามีพยานหลักฐานมากพอ ที่จะเอาผิดอยู่แล้ว และเชื่อว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่ จะทำให้ "แอม ไซยาไนด์" ต้องยอมจำนน การที่เขาไม่พูด ไม่ยอมให้การนั้น อาจเป็นเพราะยังคิดว่า ตำรวจไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า เขาคือคนวางยา แต่อย่าลืมว่า อาชญากรรมทุกประเภท ย่อมทิ้งร่องรอยเสมอ หากตำรวจไม่มีหลักฐาน ศาลก็คงไม่อนุมัติหมายจับให้ 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันจันทร์นี้ (8 พ.ค.) ได้เรียกประชุมติดตามความคืบหน้า จากตำรวจผู้ทำคดีนี้ในทุกพื้นที่ รวมถึงหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องสารไซยาไนด์ กรณีที่มีการนำเข้า การครอบครอง และการประกาศขายในโลกออนไลน์ พร้อมยืนยันว่า "สารไซยาไนด์" เป็นวัตถุอันตราย ประเภทที่ 4 ใน พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535  ห้ามนำเข้า ห้ามครอบครอง และห้ามนำมาผสมใส่อาหาร ยา และเครื่องสำอาง หากพบผู้ใดฝ่าฝืน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ