อ.อ๊อด บุกพิสูจน์ไฟปริศนาไหม้บ้านย่านบางบัวทองนับ 100 ครั้ง

เป็นที่ฮือฮาในโซเชียลเป็นอย่างมาก กรณีที่มีหญิงสาวรายหนึ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน หลังเกิดเหตุการณ์ไฟปริศนาลุกไหม้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้านพักที่เธอเช่าไว้ ภายซอยวัดลาดปลาดุก อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

 

โดยระบุว่า ที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างปริศนามาแล้วนับร้อยครั้ง จึงอยากให้ "หมอปลา" มาช่วยดู หลังเพื่อนบ้านระบุว่า ว่า อาจจะเป็นเรื่องของอำนาจลี้ลับที่ไม่ต้องการให้ตนเองกับครอบครัวมาเช่าพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ (อ่านข่าว) 

 

 

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (3 ส.ค.) รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ อ.อ๊อด ในฐานะประธานนิติวิทยาศาสตร์ เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงเมื่อมาถึงก็ถามหาเด็กชาย อายุ 12 ปี เรียกมาคุย เเละสังเกตจับปฏิกิริยา และให้พาไปชี้จุดที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นเอง ทั้งผ้าม่าน ลิ้นชัก ตู้เสื้อผ้า ที่นอน ซึ่งเด็กก็ยังยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้จุดไฟภายในบ้าน 

 

อ.อ๋อด ระบุว่า จากการตรวจสอบถายในบ้าน การจะเกิดเพลิงไหม้ต้องมี 3 องค์ประกอบ อากาศ เชื้อเพลิงจุดกำเนิดความร้อน ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นเหมือนกับกรณีที่เกิดไฟไหม้ขึ้นที่พัทลุง เเละกำเเพงเพชร ที่เกิดจากฝีมือคนในบ้านที่จุด หลังจับได้ด้วยกล้องวงจรปิด ซึ่งกรณีนี้ที่เกิดขึ้นในทางวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบได้ ยืนยันว่า ไม่มีพลังงงานใต้ดิน 

 

ส่วนในทางนิติวิทยาศาสตร์ ก็ต้องให้เข้าหน้าที่ตรวจสอบลายนิ้วมือเเฝง ซึ่งขณะนี้ยังหลงเหลืออยู่ เเละหากเกิดขึ้นอีก ยินดีที่จะเอากล้องอินฟาเรดเข้ามาช่วยตรวจสอบ แต่เบื้องต้นขณะนี้ทราบว่า เจ้าของบ้านผู้เช่าจะย้ายออกเเล้ว 

 

การมาวันนี้ก็เพื่อช่วยค้นหาความจริงในทางวิทยาศาสตร์ แต่การวางเพลิงบ้านเรือนเเม้จะเป็นบ้านของตัวเอง ก็อัตราโทษค่อนข้างสูง

 

 

ขณะที่ผู้เช่าบ้านบอกว่า จะย้ายออกเเล้วเนื่องจากครอบครัวไม่สะดวกใจจะอยู่ หลังพยายามพิสูจน์มา 3 คืน แม้จะพยายามคาดคั้นถามเด็กก็ตาม แต่ก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่ หลังจากที่นำกล้องวงจรปิดของนักข่าวมาติดไว้เมื่อคืน ก็ไม่เกิดเพลิงไหม้อีกเลย 

เมื่อถามว่า กลัวจะเป็นเหมือนเด็กที่ลพบุรีที่กุเรื่องโกหกพ่อเเม่หรือไม่ มารดาของเด็กกล่าวว่า กลัวจะเป็นอย่างนั้น เเต่ได้เค้นถามบอกลูกว่าอย่าโกหกนะ เดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่ ลูกชายก็ยืนยันว่า ไม่ใช่คนจุด เเละคิดว่าคงไม่มีใครจะมาเผาบ้านของตัวเองให้เรื่องราวใหญ่โต 

 

 

 

 

ขณะที่ นายณัฐเดช กังสกุล นายอำเภอบางบัวทอง กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ทางกาชาดดูเเลในส่วนของที่อยู่อาศัย และประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบให้ชัดเจน ก่อนบอกเจ้าของบ้านว่า อย่าไปเชื่อว่าเกิดจากสิ่งลี้ลับ เพราะเชื่อว่าต้องเกิดจากฝีมือคนแน่นอน ตนกล้าเอาตำเเหน่งเป็นประกัน 
ทั้งนี้หลังเข้าตรวจสอบ นายอำเภอได้ประสานทางตำรวจ สภ.บางบัวทอง ให้เจ้าของบ้านผู้เช่าไปให้ปากคำ เเละยังเชิญพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ

 

พ.ต.อ.พฤฒ จำเริญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ จะพิสุจน์เหมือนเพลิงไหม้ทั่ว ๆ ไป  ตามความเชี่ยวชาญของพิสูจน์หลักฐาน เท่าที่ตรวจสอบตำรวจไม่เชื่อผีสาง เป็นฝีมือของมนุษย์อย่างแน่นอน และการวางเพลิงทรัพย์สินผู้อื่นมีความผิด อัตรโทษสูงมาก หลังจากนี้จะเรียกคนในบ้าน ตรวจสอบลายนิ้วมือทั้งหมดเพื่อนำมาเปรียบเทียบ หากเจอใครก็ดำเนินคดีกับคนนั้น เเม้จะเป็นลายนิ้วมือเด็กก็ตาม เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์ร้ายขึ้นเพราะอาจไหม้บ้านคนอื่นได้  

 

รายงานระบุว่า ขณะที่ พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เข้าไปเเจ้งกับผู้เช่า ทั้งพี่สาว เเละน้องสาว ว่า เหตุการที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นในบ้านเป็นผู้จุดไฟ จะมีความผิดร้ายเเรง สีหน้าของน้องสาวเครียด กระวนกระวาย อย่างชัดเจน  พยายามจะบอกกับตำรวจว่า ถ้าเราไม่ได้ทำจะผิดหรือ 

 

 

 

 

ส่วนนายกำพล เพ็ญอำพรกุล เจ้าของบ้านผู้ให้เช่า ที่เดินทางมาตรวจสอบด้วย บอกว่า จะเอาผิดคนเผาหรือไม่ ต้องคุยกับประกันก่อน  เเละไม่โกรธคนเผา เพราะบ้านยังไม่ได้เสียหายมาก ล่าสุดมีผู้ติดต่อจะขอเช่าบ้านต่อเเล้ว จากการสอบถามเจ้าของบ้าน บอกว่า ปล่อยเช่าเดือนละ 6,500 บาท ที่ผ่านมาผู้เช่าจ่ายค่าเช่าทุกเดือน เเต่เดือนนี้ยังไม่จ่าย มาอยู่ได้ 3 เดือน เเละเก็บเงินค่ามัดจำประกันไว้ 13,000 บาท ส่วนจะคืนให้หรือไม่ ก็ขอให้ตำรวจพิสูจน์สาเหตุก่อน