เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
จากกรณีคานปูนสะพานกลับรถหน้าโรงพยาบาลวิภาราม กม.ที่ 34 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งอยู่ในระหว่างการปิดซ่อมบำรุง ได้เกิดพังถล่มลงมาทับรถยนต์ บนถนนพระราม 2 ช่องทางด่วน (ขาเข้า) กรุงเทพฯ ทำให้มีรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน อีกทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต 2 ราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ของ สภ.เมืองสมุทรสาคร ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางกรมทางหลวงส่วนกลาง พร้อมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นมาอีก และสั่งไม่ให้มีการจราจรผ่านจุดเกิดเหตุ พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และรายงานผลภายใน 14 วัน โดยการตรวจสอบมีหลายประเด็นเช่นการตรวจสอบว่าการดำเนินงานเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ หรือเกิดจากความประมาทในขั้นตอนใด
ล่าสุด (2 ส.ค.65) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” ได้โพสต์แสดงความเห็นในเรื่องนี้โดยยกคำพิพากษาของศาลมาอ้างอิงโดยระบุว่า “แผ่นปูนถล่มที่ถนนพระราม 2 วิศวกรรมสถานคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ทำนองว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่สามารถป้องกันได้ #ขับรถผ่านสะพานหรือทางกลับรถก็ วัดดวงกันเอาเองนะครับ เพราะประเทศไทยเขาตีความกฏหมายกันแบบนี้จึงไม่มีใครต้องรับผิดชอบนาฬิกาก็ยืมเพื่อนมาหัวหน้าคณะปฏิวัติก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ สรุปแล้วกฎหมายบังคับใช้กับคนจนใช่ไหมครับ#อ้างอิงคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดที่ อ.446/2562 ลองไปหาอ่านดูนะครับพี่น้องประชาชนศาลปกครองสูงสุดบอกว่ากรมทางหลวงมีหน้าที่ดูแลบำรุงรักษาทางหลวงให้ปลอดภัยถ้าไม่ดูแลถือว่าละเลยต่อหน้าที่เมื่อมีความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบ”
“คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่อ. 446/2562 กรมทางหลวงมีหน้าที่บำรุงรักษา ทางหลวงให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอดภัย เมื่อความเสียหายเกิดขึ้น จากการปล่อยปละละเลยไม่ตรวจตรา,ซ่อมแซมจนเกิดอุบัติเหตุ ถือว่ากรมทางหลวง ละเลยต่อหน้าที่ (คำพิพากษาย่อ)”