วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 นายจารึก กมลอินทร์ ประธานคณะกรรมการกลางศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ พร้อมด้วย นายพชร พูลเจริญภักดี ประธานเครือข่ายธรรมภิบาลไทย ในฐานะประธานเครือข่ายเกษตรกรชาวนาเพื่อการพาณิชย์ การท่องเที่ยว และการอุตสาหกรรมแห่งชาติพร้อม นำสมาชิกศูนย์ข้าวชุมชน กว่า 100 คน เดินทางมายื่นหนังสือ ขอบคุณ นายกรัฐมนตรี ที่ใส่ใจทุกข์สุข สนับสนุนงบประมาณเพื่อชาวนา ยื่นหนังสือ ล้างขบวนการทุจริตเครื่องนับเมล็ดพันธุ์ข้าว ปราบคนโกง
เนื้อหาสำคัญ ที่ระบุไว้ในหนังสือ ก็คือ ทางกลุ่มต้องการให้รัฐบาลดำเนินการต่อในหลายเรื่อง เรื่องแรก การสนับสนุนงบประมาณเพื่อชาวนา และเงินที่ช่วยเหลือชาวนาผ่านศูนย์ข้าวชุมชน 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับขบวนการทุจริต โดยให้กรมการข้าว กำลังดำเนินการตามกฎหมายและได้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงตามนโนบายของนายกรัฐมนตรี และเครือข่ายทุจริตนี้มีทั้งนักการเมืองบางคน, และข้าราชการประจำบางคน และ สมาชิกวุฒิสภาบางคนอยู่เบื้องหลัง ทำให้พยานและชาวนารู้สึกหวาดกลัว . จึงกราบเรียนมาเพื่อขอความเป็นธรรม และคุ้มครองพยาน เมื่อจบจากศูนย์ดำรงธรรมแล้ว
จากนั้น กลุ่มของนายจารึก ได้เดินทางต่อไปยัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมยื่นหนังสือถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีใจความในหนังสือว่า ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายเฉลิมชัย ที่ มีการผลักดันสนับสนุนงบประมาณ ในการพัฒนาศูนย์ข้าวชุมชนและเครือข่ายชาวนา เป็นจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ได้มีการขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดในการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง กับขบวนการทุจริต ในการจัดซื้อเครื่องนับเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยเร่งด่วน
ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย ซึ่งลงมารับหนังสือด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงเป็นใย ชาวนาทั่วประเทศ จะไม่มีการทอดทิ้ง และให้การดูแลชาวนาและเครือข่ายชาวนาอย่างทั่วถึงยั่งยืน ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการในการช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ให้กับชาวนาและเครือข่ายชาวนาได้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนตลอดไป พร้อมย้ำถ้าทำไม่ดีต้องลงโทษ ถ้าทำดีต้องปกป้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร และชาวนา