svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สุทิน"สับ"บิ๊กตู่-เสี่ยหนู"หนุนกัญชาเสรีกลับเอื้อประโยชน์ทับซ้อน

19 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สุทิน คลังแสง"มองเปิดกัญชาเสรีมีประโยชน์ทับซ้อนกับ"ภูมิใจไทย"และนายกฯ ชี้ห่วง UN ขึ้นบัญชีไทยเป็นประเทศละเมิดกฎหมายสากล

19 กรกฎาคม 2565 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะเกี่ยวกับจัดทำนโยบายกัญชาโดยไม่สุจริตใจ ทำให้เกิดการละเมิดกติกาโลก เนื่องจากไทยได้ไปลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ 1961 ขององค์การสหประชาชาติ หรือ UN แถมยังละเมิดรัฐธรรมนูญไทย ละเมิดมติรัฐสภาไทย แล้วยังละเลยไม่ควบคุมกัญชา ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนและประเทศ 

 

โดยก่อนเข้าสู่เนื้อหา นายสุทิน ได้ขอพูดความในใจ ว่า เรื่องนี้มีวิวาทะกันในสังคมมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีการเดิมพันธ์ด้วยธุรกิจ คำพูดของตนอาจจะกระทบกับประชาชนในบางส่วนและกระทบในธุรกิจกัญชาไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ แต่ก็อยากพูดเพื่อให้ความจริงได้ปรากฎตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่ประชาชนจะถลำลึกและเจ๊งในวันข้างหน้า

 

ขณะเดียวกัน ก็ไม่สบายใจเนื่องจากตนเองก็เคารพนับถือกับนายอนุทิน ไม่อยากให้มีเรื่องโกรธกัน แต่การพูดของตนเป็นการเปิดโอกาสให้นายอนุทิน ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ยืนยันว่าเรื่องที่จะพูดวันนี้ (19ก.ค.) เป็นเรื่องใหม่ทั้งหมดจึงอยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ฟังจนจบ 

และเมื่อเข้าสู่เนื้อหาการอภิปราย นายสุทิน ได้เปิดคลิปเนื้อหาการปราศรัยช่วงหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 62 โดยเนื้อหาใจความส่วนหนึ่งในคลิปนายอนุทิน ระบุว่า "กัญชาเป็นยาพารวย เป็นยารักษาโรค และนำมาพี้สูบกันเองได้" นายสุทินกล่าวต่อว่า การประกาศนโยบายดังกล่าวเป็นการติดกระดุมผิดเพราะการพูดขณะนั้นผิดกฎหมายโลกและกฎหมายไทยทุกข้อ และที่สะเทือนใจและผิดมากคือ "สามารถนำไปพี้และสูบได้ทุกคน" 

 

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ต่อมานโยบายดังกล่าวถูกนำมาเป็นเงื่อนไขต่อรองในการร่วมรัฐบาลซึ่งนายกฯต้องจำยอม และกลายเป็นนโยบายของรัฐบาลทันที นโยบายกัญชาที่ออกมาเป็นการละเมิดเกินเลยกว่าที่สภาอนุมัติ แม้จะบอกว่าหลายประเทศทำได้ แต่มีหลายประเทศที่ละเมิด และที่ละเมิดอย่างรุนแรง คือประเทศแคนนาดา และประเทศอุรุกวัย ที่ตอนนี้กำลังถูกทั้งโลกลงโทษ และขณะนี้ประเทศอุรุกวัยก็พยายามยกเลิกนโยบายกัญชาเสรี เพราะไม่คุ้มกับที่สูญเสียไป ซึ่งต่างประเทศส่วนใหญ่อนุญาตแค่ทางการแพทย์เท่านั้น 

 

ซึ่งภายหลังปลดล็อกมีการวางขายกัญชาแบบเสรีอย่างชัดเจน ทำให้หลายหน่วยงานออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วย และมีเสียงคัดค้านกับการเปิดกัญชาเสรี แม้มีกฎหมายควบคุมกัญชง กัญชา ออกมา แต่สรรพคุณยาเสพติดก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปด้วย 

"แล้ววันนี้ถ้ามาเทียบกับสิ่งที่จะได้ เรื่องเศรษฐกิจก็ไม่คุ้ม เรื่องสังคมก็จะเละ การที่ทำแบบนี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ เพราะประโยชน์ทางการเมืองที่จำเป็นต้องทำเมื่อประกาศออกมาแล้วก็ต้องทำเพื่อให้ได้คะแนนเสียงทางการเมือง นายกรัฐมนตรีก็ได้ประโยชน์ในการอยู่ในอำนาจและมีพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าบริษัท STPI เครือซิโน-ไทย เดินหน้าธุรกิจกัญชงเต็มตัว เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศรับซื้อไม่อั้น จึงเกิดกระบวนการปลดล็อกกัญชา เปรียบเสมือนการนำประเทศทั้งประเทศไปค้า เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งถ้าหากเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่อนุญาตให้ทำเรื่องนี้คงไม่สำเร็จ" นายสุทิน ระบุ

 

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้คัดค้านกัญชา แต่ต้องอยู่ในกรอบการแพทย์ การวิจัย ไม่มีเรื่องนันทนาการ และไม่ขัดต่อมติโลก แต่ดูจากเจตนาของนโยบายกัญชาวันนี้ถือว่าสายไปแล้ว ขณะนี้ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว จึงกังวลว่ายูเอ็นจะขึ้นบัญชีให้ไทยเป็นประเทศที่ละเมิดของกฎคณะกรรมการควบคุมสารเสพติดนานาชาติ ซึ่งจะทำให้ไทยเสียสิทธิ์ทางยา และอาจถึงขั้นงดให้ความร่วมมือกับไทยในการปราบปรามยาเสพติด หากไทยอย่างดื้ออาจจะถูกปรับออกจากภาคี ซึ่งจะทำให้ไทยไม่เหลือทั้งเกียรติภูมิและความน่าเชื่อถือของประเทศ  

 

ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีและนายอนุทิน อยู่ต่อไปยิ่งจะทำให้กัญชาเตลิดไปมากกว่านี้ แค่นี้ก็วิตกกังวลจนขนลุกกันหมดแล้ว อีกทั้ง ยังมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่รัฐบาลจะต้องตอบประชาชนให้ได้


 

logoline