เศรษฐกิจจีนเติบโตต่ำที่สุดในรอบกว่า 2 ปี

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน เปิดเผยวันนี้ว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศ หรือ จีดีพี ในไตรมาส 2 ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย.เติบโตเพียง 0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ตัวเลขดังกล่าวเป็นการเติบโตต่ำที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจหดตัว 6.8% ในไตรมาสแรกของปี 2563 รวมทั้งต่ำกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ที่ 1.1% นอกจากนี้จีดีพีไตรมาส 2 ยังหดตัวถึง 2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้

นักวิเคราะห์ ระบุว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ลดต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ โดยเป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของประเทศส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นไตรมาส

ขณะเดียวกันสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า จีดีพีของครึ่งปีแรกขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และนักวิเคราะห์มองว่า เป้าหมายของรัฐบาลจีน ที่อยากเห็นเศรษฐกิจตลอดทั้งปีเติบโต 5.5% เป็นเรื่องยากที่จะบรรลุผลได้

นอกจากนี้สื่อรายงานว่า รัฐบาลจีนเผชิญความท้าทายหลายเรื่องเพื่อรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจให้คงที่ เช่น นโยบายโควิดเป็นศูนย์ วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้น และกระแสประท้วงในสังคมที่เพิ่มมากขึ้น

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF แนะนำเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จีนควรเพิ่มการสนับสนุนด้านนโยบายการเงินและการคลังมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเนื่องจากการล็อกดาวน์ควบคุมโควิด และผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด