WHO เตือนโควิดไม่ใกล้จบ-ยังอยู่ระดับฉุกเฉิน

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเมื่อวันอังคารว่า เขากังวลที่เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น เพิ่มภาระหนักแก่ระบบสาธารณสุขและบุคลากรการแพทย์ที่กำลังตึงตัว และกังวลที่แนวโน้มจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นด้วย เขาย้ำด้วยว่าคณะกรรมการฉุกเฉินที่ประชุมเมื่อวันศุกร์สรุปว่า โควิด-19 ยังเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ

นอกจากนี้คณะกรรมการฉุกเฉินกังวลเกี่ยวกับความท้าทาย 3 ประการที่เชื่อมโยงกัน ได้แก่ สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนอย่าง BA.4 และ BA.5 ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ขณะที่การเฝ้าระวังลดลง โดยเฉพาะการตรวจหาเชื้อและการถอดรหัสพันธุกรรม ทำให้ยากที่จะประเมินผลกระทบจากการแพร่กระจายของสายพันธุ์ย่อย ลักษณะของโรค ประสิทธิภาพของมาตรการป้องกัน และสุดท้ายการวินิจฉัย การรักษาและวัคซีนยังไม่อาจกระจายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้อำนวยการ  WHO ยังแนะนำให้รัฐบาลต่าง ๆ ใช้มาตรการควบคุมโรค อย่าง สวมหน้ากาก ระบายอากาศ ตรวจคัดกรองและรักษา และ เน้นย้ำให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่กลุ่มเสี่ยง และฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน  พร้อมทั้งเตือนว่าการระบาดระลอกใหม่ในขณะนี้บ่งชี้ว่า โควิด-19 ยังไม่ใกล้จุดจบ

นอกจากนี้ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินของ WHO เปิดเผยด้วยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่รายงานต่อ WHO เพิ่มสูงขึ้น 30% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่ติดเชิ้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 และมีปัจจัยจากการยกเลิกมาตรการทางสาธารณสุขและมาตรการทางสังคม รวมถึงการเปลี่ยนนโยบายตรวจหาเชื้อเป็นอุปสรรคต่อการตรวจพบการระบาดและการเฝ้าสังเกตวิวัฒนาการของไวรัส 

ขณะเดียวกันผู้อำนวยการ  WHO ประจำภูมิภาคยุโรปแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่สองแก่ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง เพียงหนึ่งวันหลังจากหน่วยงานสาธารณสุขและยาของสหภาพยุโรปแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่สองแก่ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 

นอกจากนี้คณะทำงานโควิด-19 ของทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประชาชนกลับมาเพิ่มการเฝ้าระวังโควิด-19 ย้ำให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และสวมหน้ากากในพื้นที่ปิด หลังจากสายพันธุ์ย่อย BA.4  และBA.5 แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว