เหตุรุนแรงจากอาวุธปืนแทบไม่ค่อยเกิดขึ้นนักในญี่ปุ่น โดยข้อมูลที่รวบรวมโดยคณะสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ในออสเตรเลีย ระบุว่า ในปี 2561 ญี่ปุ่นซี่งมีประชากร 125 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตเพียง 9 รายจากอาวุธปืน เทียบกับ 39,740 รายในสหรัฐฯ ในปีเดียวกัน
แนนซี สโนว์ ผู้อำนวยการฝ่ายญี่ปุ่นของสภาอุตสาหกรรมความมั่นคงระหว่างประเทศ บอกว่า เหตุการณ์ลอบยิงอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะในวันนี้จะเปลี่ยนญี่ปุ่นไปตลอดกาล เธอบอกกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่แทบไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่ยังเป็นสิ่งที่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น และชาวญี่ปุ่นจินตนาการไม่ออกถึงวัฒนธรรมปืนอย่างที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ
ภายใต้กฎหมายปืนของญี่ปุ่น กำหนดว่า ปืนที่อนุญาตให้จำหน่ายได้มีเฉพาะปืนลูกซองและปืนอัดลม ส่วนปืนสั้นห้ามจำหน่าย แต่การซื้อปืนเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานานและขั้นตอนซับซ้อนที่ต้องใช้ทั้งความพยายามและความอดทนอย่างมาก
ผู้ที่จะซื้อปืนจะมีคุณสมบัติในการขึ้นทะเบียนปืนได้ ก็ต้องเข้ารับการอบรมหนึ่งวันเต็ม ผ่านการทดสอบข้อเขียน และการทดสอบยิงเป้าโดยต้อบมีความแม่นยำอย่างน้อย 95% ต้องเข้ารับการประเมินสุขภาพจิตและตรวจสารเสพติด รวมถึงตรวจสอบประวัติอย่างเข้มงวด ซึ่งรวมถึงประวัติอาชญากรรม หนี้ส่วนบุคคล ความเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรม และความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อน
และเมื่อซื้อปืนได้แล้ว เจ้าของปืนจะต้องขึ้นทะเบียนปืนกับตำรวจ และให้รายละเอียดว่าเก็บปืนและกระสุนแยกกันในซองที่ปิดล็อกไว้ที่ไหน ปืนจะต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจปีละครั้ง และเจ้าของปืนต้องเข้ารับการอบรมและทดสอบทุก 3 ปีเพื่อต่ออายุใบอนุญาต ข้อจำกัดที่เข้มงวดเหล่านี้ทำให้จำนวนประชาชนที่ครอบครองปืนในญี่ปุ่นมีน้อยมาก ๆ
ข้อมูลจากการสำรวจของ Small Arms Survey ของสถาบันการศึกษาต่างประเทศและการพัฒนาในนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า ในปี 2560 มีพลเรือนญี่ปุ่นครอบครองปืนรวม 377,000 กระบอกจากจำนวนประชากร 125 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนการครอบครองปืน 0.25 กระบอกต่อประชากร 100 คน เทียบกับ อัตราการครอบครองปืนเกือบ 120 กระบอกต่อประชากร 100 คนในสหรัฐฯ
นอกจากนี้เหตุการณ์ลอบยิงนักการเมืองในญี่ปุ่นครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 2550 เมื่ออิกโช อิโตะ นายกเทศมนตรีเมืองนางาซากิ ถูกยิงอย่างน้อย 2 นัดที่หลังในระยะเผาขนด้วยฝีมือของพวกแก๊งอาชญากร และเสียชีวิตหลังจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ญี่ปุ่นเพิ่มการควบคุมปืนเข้มงวดยิ่งขึ้นอีก โดยกำหนดบทลงโทษหนักขึ้นสำหรับการก่อความรุนแรงด้วยอาวุธปืนโดยฝีมือของพวกแก๊งอาชญากร
ภายใต้กฎหมายที่แก้ไขใหม่ การครอบครองปืนในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายแก๊งอาชญากรรมอาจต้องโทษจำคุกถึง 15 ปี การครอบครองปืนเกิน 1 กระบอกเป็นอาชญากรรมที่มีโทษจำคุกถึง 15 ปี และการยิงปืนในสถานที่สาธารณะจะต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต