เปิดขั้นตอนอังกฤษเฟ้นหานายกรัฐมนตรีคนใหม่
หลังจากที่ บอริส จอห์นสัน ตัดสินใจยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำให้มีการจับตาทันทีว่าใครจะได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่
โดยขณะนี้ ก็มีคนในพรรค Conservative หลายคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวเต็ง เดี๋ยวเราไปดูผลสำรวจของ YouGov ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำโพลบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการเมือง พบว่าผู้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดให้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนต่อไป คือ เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหม ได้คะแนนนิยมสูงสุดที่ 13% ตามด้วยอันดับสอง เพนนี มอร์ดอนท์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการค้า ที่ได้ความนิยม 12% ส่วนอันดับสามคือ ริชี ซุนัค อดีตรัฐมนตรีการคลัง ที่ได้รับความนิยม 10% ตามด้วยอันดับ 4 ลิซ ทรัส รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ได้ความนิยม 8% และอันดับ 5 ไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีการเคหะและชุม ที่ได้ความนิยม 7%
จะเห็นได้ว่าในพรรค Conservative มีคนที่มีความเหมาะสมจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรีคนใหม่หลายคน และแต่ละคนก็มีคะแนนนิยมที่ไล่เลี่ยสูสีกัน ซึ่งก็ต้องดูว่าจะมีใครเสนอตัวขึ้นมารับตำแหน่งบ้าง ในส่วนของขั้นตอนการคัดเลือก เมื่อมีคนเสนอตัวขึ้นมารับตำแหน่งแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นใครก็ได้ ผู้สมัครแต่ละคนจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. พรรค Conservative อย่างน้อย 8 คน ในการคัดเลือกรอบแรก ใครได้เสียงสนับสนุนไม่ถึง 8 คน ก็จะตกรอบแรก ต่อมาในรอบที่สอง ผู้สมัครจะต้องได้รับเสียงสนับสนุน จาก ส.ส. เพิ่มเป็น 18 คน ถึงจะผ่านเข้ารอบต่อไป และรอบต่อไป ก็จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มเป็น 36 คน เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือผู้สมัครเพียงสองคนสุดท้าย ซึ่งจะเปิดให้สมาชิกพรรค Conservative ซึ่งมีสมาชิกทั่วอังกฤษประมาณ 200,000 คน ได้ร่วมลงคะแนนเสียงผ่านทางไปรษณีย์ เพื่อตัดสินว่าใครจะได้เป็นผู้ชนะ ที่จะได้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ซึ่งจะได้ดำรงตำแหน่งไปอีกสองปี ก่อนที่จะมีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในอังกฤษ
ในส่วนของเวลาที่จะใช้ในการคัดเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีคนเสนอตัวมาชิงตำแหน่งเยอะมากแค่ไหน เพราะยิ่งคนเสนอตัวเยอะ ก็ยิ่งต้องลงคะแนนเสียงกันหลายรอบ อย่างการคัดเลือกครั้งที่แล้ว ที่มีผู้เสนอตัว 10 คน ก็ต้องโหวตกันถึง 6 รอบ กว่าจะเหลือผู้ท้าชิงแค่สองคน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ หรืออาจนานกว่านั้น ซึ่งในช่วงเวลานี้ บอริส จอห์นสัน บอกว่าเขาจะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีไปก่อน จนกว่ากระบวนการคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่จะเสร็จสิ้นลง ซึ่งก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางพรรค Conservative จะยอมให้จอห์นสันได้อยู่เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีนานขนาดนั้นหรือเปล่า หากจอห์นสันถูกกดดันให้สละตำแหน่งในทันที โดมินิก ราบ ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี จะขึ้นมาเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีแทนไปก่อน