svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"วิเชียร"ลั่นหนุนสูตรหาร 100 เหตุสอดคล้องเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ

05 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“วิเชียร”หนุนสูตรหาร 100 คิดปาร์ตี้ลิสต์เข้าใจง่าย-ไม่ซับซ้อน ชี้หาร 500 ไม่สอดคล้องเจตนารมณ์ รธน. ปลื้ม บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทำปชช.อิสระ เลือกพรรค-ส.ส. ลั่นกติกาที่เป็นกลาง ต้องไม่มีใครได้เปรียบ-เสียเปรียบ 

5 กรกฎาคม 2565 นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงแนวคิดการพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในประเด็นการคำนวณจำนวนที่นั่ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ที่มีผู้เสนอให้หารด้วย 500 แทนการหารด้วย 100 ซึ่งการใช้หลัก ส.ส.พึงมี โดยวิธีคำนวณหารด้วย 500 ตามมาตรา 91 เดิม และอ้างเจตนารมณ์ประกอบมาตรา 94 ที่ยังไม่ได้แก้ไข ส่วนตัวเห็นว่าไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ที่แก้ไขใหม่ ที่เขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรง

 

"ผมมีความเห็นว่าในทางข้อกฎหมายนั้นอธิบายได้ยาก และไม่สอดคล้องกับเหตุและผล คือสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรง เรามีบัตรเลือกตั้งลงคะแนนให้กับส.ส.เขต แล้วก็มีบัตรเลือกตั้งลงคะแนนให้กับส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่เวลาการคำนวณกลับกำหนดวิธีคำนวณโดยนำคะแนนบัตรทั้ง 2 ใบมารวมกัน ซึ่งตรงนี้ไม่ชอบด้วยหลักการและเหตุผล" นายวิเชียร กล่าว 
 

ส่วนประเด็นการโต้แย้งกันว่าขัดรัฐธรรมนูญจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่นั้น โดยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมีกระบวนการที่แตกต่างจากการเขียนกฎหมายหรือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อื่นทั่วไป คือ จะมีการกำหนดกระบวนการที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอยู่ในกระบวนการเลย คือ การเข้าชื่อโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งมา หรือ ส.ส. ในสภาเข้าชื่อกันแล้วไปพิจารณาโดยใช้การประชุมรัฐสภา คือ วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรประชุมร่วมกัน เหมือนที่กำลังพิจารณาอยู่

 

ทั้งนี้ เมื่อรัฐสภาลงมติเป็นประการใด ก็ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา และองค์กรอิสระ ที่เกี่ยวข้องในที่นี้ คือ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากมีความเห็นเป็นประการใด ก็ส่งกลับมาให้รัฐสภาพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยต้องใช้เวลาไม่เกิน 65 วัน ภายหลังจากที่รัฐสภาเห็นชอบในวาระที่ 3 แล้ว  

อย่างไรก็ตาม ดังนั้น การแก้ไข พ.ร.ป. ทุกอย่างถูกบังคับด้วยเวลา และเวลาก็กำหนดกระบวนการวิธีไว้ครบถ้วนแล้ว ตนจึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร รัฐสภาสามารถใช้ดุลยพินิจของสมาชิกในการลงมติการอภิปรายเพื่อให้เหตุ และผล ก็เป็นสิทธิของสมาชิกที่จะให้ความเห็นได้ ซึ่งในที่สุดเชื่อว่าสมาชิกจะวินิจฉัยไปตามเหตุ และผลของกฎหมายที่ระบุไว้ ซึ่งคาดว่ากระบวนการน่าจะเสร็จสิ้นปลายเดือน ส.ค.

 

ขณะเดียวกัน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ทำให้แต่ละเขตเลือกตั้งเล็กลง มีความใกล้ชิดของประชาชน และส.ส.เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนการลงคะแนนเลือกตั้งเป็นแบบบัตร 2 ใบ เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเลือกผู้แทนที่ชอบ และเลือกพรรคการเมืองได้โดยอิสระ ไม่ต้องถูกบังคับให้ต้องตัดสินใจเลือกรวมด้วยบัตรใบเดียว และการคิดคำนวณส.ส.เข้าใจได้ง่าย คือ คะแนนรวมหารด้วยจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน เป็นที่เข้าใจได้ไม่ซับซ้อน 

 

สำหรับการใช้สูตรหาร 500 นั้น ไม่อยากสรุปว่าวิธีการของการเลือกตั้ง และการคิดคะแนนจะมาตัดสินว่าทำให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งมีโอกาสในการเลือกตั้ง เพราะเท่ากับว่ากำลังนำกติกามากำหนดอนาคต เพราะอนาคตของพรรคการเมืองอยู่ที่การกระทำ แนวนโยบาย และสิ่งที่พรรคการเมืองต้องนำเสนอต่อประชาชนให้ศรัทธา และเชื่อถือ ถ้าไปอ้างว่ากติกานี้ทำให้ได้เปรียบก็เหมือนกับมองข้ามประชาชน ประชาชนเป็นผู้เลือกว่าคนที่จะมาทำหน้าที่บริหารประเทศเพื่อให้อยู่ดีมีสุขควรจะเป็นพรรคแบบไหน อย่างไร

 

"เราต้องเคารพในสิ่งเหล่านี้ ถ้าเรามองข้ามก็เท่ากับเราไม่เคารพในเสียงหรือผู้ลงคะแนนให้ ต้องคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องสำคัญ ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนที่จะมาทำหน้าที่บริหารประเทศ ไม่ว่ากติกาจะเป็นแบบไหน เราก็พร้อมที่จะดำเนินการ เพราะถ้าเราออกกติกา และมีความเห็นว่ากติกานี้ทำให้เราได้เปรียบมันก็แสดงว่ากติกานั้นไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม ถ้าเป็นกลาง และเป็นธรรมต้องไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ" นายวิเชียร กล่าว

 

logoline