วิกฤตที่อยู่อาศัยในฮ่องกงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่้องยาวนานเพราะตลาดที่อยู่อาศัยไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของชาวฮ่องกงได้ ทั้งบ้านที่ซื้อจากบริษัทเอกชนและบ้านที่ทางการจัดสรรให้
ข้อมูลล่าสุดของการเคหะแห่งฮ่องกงพบว่ามีอยู่กว่า 1.4 ล้านครัวเรือนที่ซื้อบ้านจากบริษัทเอกชน หรือคิดเป็น 55 เปอร์เซ็นต์ ของครัวเรือนทั้งหมดในไตรมาสแรกของปี 2022 โดยบ้านที่ได้รับความนิยมก็คือขนาด 1 หรือ 2 ห้องนอน ส่วนคนรุ่นใหม่นิยมห้องแบบสตูดิโอ
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาบ้านของบริษัทเอกชนแผ่วลงเล็กน้อยเนื่องจากคนที่ต้องการซื้อบ้านกังวลว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยสินเชื่อซื้อบ้าน ราคาของบ้านในแต่ละพื้นที่จะต่างกันมาก ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบางย่านเพิ่มขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ แต่โดยภาพรวมท้ั้้งฮ่องกงเพิ่มขึ้นประมาณ 4-5 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับชาวฮ่องกง
ลักษณะของที่อยู่อาศัยในฝั่งเกาลูน อาคารเก่าแก่มีอยู่ทั่วไปและมักจะถูกนำมาฟื้นฟูบูรณะให้เป็นของใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นชาวฮ่องกงจำนวนมากก็ยังไม่สามารถซื้อได้ ดังนั้นจึงต้องเบนเป้ามายังบ้านของการเคหะซึ่งส่วนใหญ่ต้องรอนานโดยเฉลี่ยถึง 6 ปี
ผู้อำนวยการเคหะแห่งฮ่องกงกล่าวว่าทางการได้พยายามหาพื้นที่ใหม่ๆพร้อมๆไปกับการมีเครือข่ายการคมนาคมและสิ่งอำนวยความสะดวก มีที่ทำงานและมีโรงเรียน
ข้อมูลของการเคหะพบว่ามีครัวเรือนประมาณ 1.2 ล้านครัวเรือนที่ซื้อบ้านของการเคหะหรือเท่ากับ 45 เปอร์เซ็นต์ ของครัวเรือนทั้งหมด และมีพื้นที่สีเขียวถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด ดังนั้นจึงเหลือพื้นที่ให้อยู่อาศัยเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น จึงจำเป็นต้องหาพื้นที่ซึ่งรวมถึงการถมทะเลซึ่งต้องใช้เวลานาน แต่ทางการยังคงใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยโดยขณะนี้มีแผนแก้ปัญหาในระยะ 10 ปีไว้แล้ว