"ทวี"ค้าน พ.ร.บ.ตำรวจ ม.158 โอนงานจราจรให้ท้องถิ่น

2 กรกฎาคม 2565 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ กล่าวอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติว่า ผมได้เป็นผู้สงวนความเห็นโดยตัดมาตรา 158 ออกไป ปกติการถ่ายโอนภารกิจของตำรวจในครั้งนี้ เราจะต้องถ่ายโอนเพื่อการปฏิรูประเทศอย่างน้อยก็ปฏิรูปตำรวจ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพกับประชาชน  ซึ่งการถ่ายโอนภารกิจของงานจราจร แม้กรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ จะได้มีการปรับปรุงแก้ไขที่ดีกว่าเดิมที่ส่งมาก็คือ ภายใน 5 ปีนับแต่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับให้โอนงานจราจรตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ที่แก้ไขเพิ่มเติมเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการให้สัญญาณจราจร การทำติดตั้งหรือการทำให้ปรากฎสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจร หรือการกวดขันวินัยจราจรและการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ในความผิดฐานจอดรถฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้เป็นไปในความเรียบร้อย ให้แก่กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และเทศบาล

ถ้าการปฏิรูปแล้วทำให้มีประสิทธิภาพแล้วประชาชนดีขึ้น ผมเห็นด้วย อย่างแรกเราต้องยอมรับว่า ปัจจุบันได้มี พ.ร.บ.จัดระเบียบการจอดรถในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2562 ที่มันเป็นอำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยาและเทศบาลอยู่แล้ว รวมเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7,000 กว่าแห่ง 

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ยังมีความเข้าใจผิดเรื่องตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ ความจริงภารกิจของตำรวจจราจรมีมากมาย อย่างแรกตำรวจจราจรทำหน้าที่สายตรวจชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่าสายตรวจจราจร ซึ่งก็ต้องทำหน้าที่ทั้งจับกุมในเหตุต่างๆ นอกเหนือจากการจราจร  งานตำรวจที่ความสำคัญที่สุดคือ งานสายตรวจ เพราะเจ้าหน้าที่ตรงนี้จะต้องไปปกป้องคุ้มครองประชาชนทุกพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งสายตรวจจราจร ต้องทำหน้าที่ป้องกันในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งในวงการตำรวจจะพูดกันว่า การป้องกันอาชญากรรมดีกว่าการแก้ปัญหาอาชญากร คือ ถ้าเราปล่อยให้มีการก่ออาชญากรรมเกิดขึ้นแม้เราจะไปจับตัวคนร้ายได้ แต่ความบอบช้ำของผู้เสียหายก็ยังมีอยู่ 

ส่วนงานจราจรที่จะมีการโอนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ความจริงตำรวจยังทำหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตำรวจจราจรคือตำรวจหลังของสังคมไทย ในประเทศต่างๆ ถ้าเรื่องงานจราจรมันมีหลากหลาย คือ อาจจะในส่วนของรถที่หยุดนิ่งให้ท้องถิ่นดูแล้ว ส่วนขณะที่พาหนะเคลื่อนที่จะให้ตำรวจดูแล 

"มาตรานี้ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะตัดโอนไป เพราะประการสำคัญแม้แต่เรื่องจราจร ถือถ้าเราไปเขียนไว้แค่หน่วยแค่นี้ วันนี้ท้องถิ่นเขามีหน้าที่อยู่แล้ว และการจราจรกรุงเทพปริมณฑลมันยุ่งยากสลับซับซ้อนมาก มันจะเป็นต้องมีศูนย์บัญชาการขึ้นมา และที่สำคัญอย่างยิ่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็เป็นหัวหน้าจราจรในนครบาล แล้วหัวหน้าหน่วยราชการต่างๆในการที่จะโอนภารกิจไปเฉพาะ 3-4 หน่วย แล้วท้องถิ่นอีกจำนวนมากเราไม่โอน ถ้าเราพิจารณาเชิงการกระจายอำนาจ ถ้าโอนตำรวจนครบาลไปให้อยู่กับกรุงเทพมหานคร จะมีความเหมาะสมกว่า จึงขอตัดมาตรานี้ "