"หญิงไก่" สุดทน ถูกหาโกงเงิน 15 ล้าน และเป็นกิ๊ก "ทักษิณ" จ่อแจ้งความกลับ

ความคืบหน้ากรณี นางญาดา (นามสมมุติ) อดีตอาจารย์ รร.ดังชายล้วนย่านปากคลองตลาด วัย 79 ปี เข้าพบตำรวจกองปราบฯ เพื่อติดตามคดีที่ถูก "หญิงไก่" นางมณตา หรือ นางศรัญญา หยกรัตนกาญ” หรือชื่อล่าสุด นางศรัญญา อุปปาตะสันติ อดีตผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง และคดีฉ้อโกง และคดีค้ามนุษย์ ตุ๋นเงินนับสิบล้านบาท โดยระบุหญิงไก่อ้างสนิทกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เมื่อ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา (อ่านข่าว)  

ล่าสุดวันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หญิงไก่ พร้อมนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ทนายความ เข้าพบพนีกงานสอบสวนกองปราบฯ เพื่อติดตามคดีดังกล่าว ซึ่งภายหลัง หญิงไก่ ได้เปิดเผยว่า ปีนี้ตนอายุ 60 กว่า ได้ไปรับโทษอยู่ในเรือนจำมา 5 เดือนกว่า เป็นคดีที่จบไปแล้ว เป็นคดีที่ไม่เกี่ยวกับที่เคยเป็นข่าวออกไปก่อนหน้านี้เลย และไม่สามารถจะเอามาพูดได้

ตอนนี้ตนไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่คอนโดฯ ย่านประชาชื่นแล้ว ส่วนแมวจำนวนมากหลายสิบตัวที่เคยเลี้ยงไว้ได้แจกให้คนอื่นไปหมดสิ้น ปัจจุบันใช้ชีวิตตามปกติ ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศทั่วโลกด้วย
 

หญิงไก่ กล่าวว่า อดีตอาจารย์รายนี้โทรมาหาตนแทบทุกวัน ครั้งล่าสุดบอกขอเงิน 100 ล้านบาท ตนมีคลิปเสียงดังกล่าวเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งทนายโป้งแนะนำว่า อย่าโทรกลับไปแต่ตนก็ตัดสินใจโทรกลับไปหา เขาถามว่าจะให้เงินเขาไหม 100 ล้าน ถ้าไม่ให้จะต้องเจอดีแน่ เพราะยังไงคนแก่อย่างเขาไม่ติดคุกแน่นอน ไม่งั้นจะต้องเป็นข่าวดังทั้งตระกูล

หลังจากที่อดีตอาจารย์คนดังกล่าวแจ้งความจนเป็นข่าวออกไปในวันนั้น ตนได้เตือนแล้วว่า สิ่งที่ผ่านมาเสนอข่าวออกไปนั้น สร้างความเสียหายให้กับตนอย่างมากเพราะไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาตนก็ชนะคดีหมด แต่กลับมาลงข่าวว่า หญิงไก่คัมแบ็ก ซึ่งตนไม่เคยมีประวัติฉ้อโกง หลอกลวง คดีค้ามนุษย์ก็ยกฟ้องหมด ตนถามว่าผู้สื่อข่าวยังจะทำตนอีกหรือ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ไม่ทำแล้ว ต้องขอขอบคุณมาก ๆ 

ตนออกมาจากเรือนจำนานแล้ว ไม่อยากที่จะออกข่าวอีก เพราะทุกอย่างได้ให้อภัยกันไปหมดแล้ว ชีวิตตนอยู่ดี มีเงินมีธุรกิจ มีครอบครัวที่ดี ไม่เคยคิดที่จะออกมาแก้ข่าวหรือโต้แต่อย่างใด ให้มันจบแล้วผ่านไป แต่คน ๆ นี้มาทำเราอีกซ้ำสองมันเกินเลยไปแล้ว 
 

หญิงไก่ กล่าวว่า ตนทนไม่ได้จึงต้องออกมาชี้แจงในวันนี้ เรื่องนี้จะต้องดำเนินคดีเพราะมีผู้ไม่เกี่ยวข้อง ไม่รู้เรื่องอะไร แต่ต้องมาถูกให้ข่าวเสียหายไปด้วย หลังจากนี้ตนจะไป  บก.น.2 และ สน.ประชาชื่น เพื่อดูว่ามีอะไรบ้าง ก่อนจะแจ้งความกลับเอาผิดในคดีต่าง ๆ ต่อไป 

ฝากขอบคุณทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ด้วยว่า ทราบว่าอดีตอาจารย์ที่มาแจ้งความตน ได้เคยไปร้องต่อทนายดัง แต่เมื่อได้ตรวจสอบแล้วน่าจะถูกหลอกแน่ ๆ จึงไม่ได้รับทำคดีให้ เพียงแค่มาเล่าโดยไม่มีเอกสารใด ๆ เป็นหลักฐานเลย

ด้าน นายเกียรติคุณ หรือ ทนายโป้ง กล่าวว่า วันนี้พบกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เจ้าของสำนวนเล่าให้ฟังว่า ตามที่มีสื่อมวลชนได้ลงข่าวไปเมื่อ 22 มิ.ย. นั้น ทางพนักงานสอบสวนกองปราบฯ รับสำนวนไว้ แล้วส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเห็นว่า ไม่เข้าเงื่อนไขของกองปราบฯ จึงส่งต่อไปให้ บก.น.2 เพื่อส่งต่อ สน.ประชาชื่น ท้องที่ที่รับผิดชอบ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ สน.ประชาชื่น แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ตนจะพาผู้เสียหายไปสอบถามพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ถึงคดีดังกล่าวต่อไป

วันนี้เรามาพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ทำให้สบายใจว่า ไม่ได้มีการรับคดีของอาจารย์คนดังกล่าว ที่สำคัญคือ ไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่นำมาแจ้งความ หลังจากนี้จะได้ขอคัดเอกสารทั้งหมดที่มาแจ้งเอาผิดผู้เสียหายด้วย เพื่อพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีกลับในความผิดต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อไป