"หญิงไก่" โต้อดีตครูกล่าวหาฉ้อโกง ยืนยันไม่เป็นเรื่องจริง เตรียมฟ้องกลับ

ความคืบหน้ากรณีที่วันนี้ (22 มิ.ย.) อดีตครูอดีตครูโรงเรียนชายล้วนชื่อดัง เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ เพื่อติดตามคดีที่ถูก "หญิงไก่ นางมณตา หรือ นางศรัญญา หยกรัตนกาญ” เข้ามาตีสนิท ขอเป็นลูกบุญธรรม ก่อนจะหลอกเอาเงินและทรัพย์สิน ตุ๋นเงินกว่า 15 ล้านบาท โดยพร้อมอ้างรู้จัก นายทักษิณ (อ่านข่าว)

ภายหลังเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา "หญิงไก่" ได้แถลงข่าวเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่า ตามที่ นางญาดา ร้องเรียนว่าตนหลอกลวงเอาทรัพย์สินไปนั้น เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตอนนี้ได้กำลังรวบรวมเอกสารหลักฐาน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดในบ้านตนเอง จดหมายที่นางญาดา เขียนส่งมาให้ตนทั้งหมด ส่งให้กับทนายความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย ส่วนที่ก่อนหน้านี้นางญาดาเคยมีคดีความฟ้องร้องกับตนเอง เรื่องจบไปนานแล้วไม่ขอพูดอีก  

หญิงไก่ กล่าวว่า ส่วนเรื่องครั้งนี้เมื่อนางญาดากล่าวหาว่าตนเองเป็นคนหลอกลวง ทำไม่ถึงยังเขียนจดหมายมาหาตนเอง ขอเป็นแม่ลูก ขอกลับมาอยู่ที่บ้านด้วย ซึ่งตนเองไม่เคยเข้าไปหานางญาดาก่อนเลยสักครั้ง มีแต่นางญาดาเข้ามาหาตนเองทุกครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่มาหาที่บ้านก็มีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ นอกจากนี้ยังมีจดหมายเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่พิสูจน์ได้  

หญิงไก่ รับว่า รู้จักกับนางญาดา เพราะก่อนหน้านี้ตนเองเคยฟ้องร้องดำเนินคดีกับนางญาดาในข้อหาฟ้องเท็จ นางญาดาจึงเขามาหาตนเองเพื่อขอไกล่เกลี่ย เขียนจดหมายส่งมาหาว่าอยากขอเป็นแม่ลูกด้วย จดหมายตนเองก็เก็บไว้ ซึ่งหลังจากนี้จะนำมาใช้ดำเนินคดี ตนเองฝากถึงสื่อมวลชนให้ช่วยตรวจสอบ นางญาดาว่า เป็นคนอย่างไร มีคดีความที่ฟ้องร้องคนอื่นเยอะมาก ถ้าไม่ชนะคดีก็จะทำเรื่องร้องเรียนผู้พิพากษา ทำให้ไม่กล้าตัดสินคดี จนนางญาดาชนะคดีมาหลายคดีแล้ว

เรื่องนี้นางญาดาเป็นคนสอนบอกตนเองว่า ถ้ามีคดีฟ้องร้องให้ทำแบบนี้จะชนะ แต่เรื่องนี้จะมาทำกับตนเองแบบนี้ไม่ได้ ใช้วิธีไปร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทุกโรงพักก็ไม่รับแจ้งความเพราะว่าไม่มีหลักฐาน พอตำรวจไม่รับแจ้งก็จะนำเรื่องไปร้องเรียนกับสื่อมวลชนให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่มันไม่เป็นความจริง 

"เหมือนครั้งที่แล้วที่ถูกกระทำจากสื่อต่าง ๆ ที่ลงข่าว จนพนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อกล่าวหากับตนเองว่าค้ามนุษย์ ซึ่งศาลตัดสินยกฟ้อง แต่ก่อนหน้านี้สื่อประโคมข่าวจนตนเองได้รับความเสียหาย ตนเองก็ไม่เคยเอาเรื่องกลับสื่อ แล้วครั้งนี้สื่อจะทำกับตนเองเหมือนเดิมอีกแล้ว"