โรเบิร์ต ฮาเบ็ก รัฐมนตรีช่วยคลังและเศรษฐกิจเยอรมนี แถลงว่าขณะนี้เยอรมนีประสบปัญหาขาดแคลนก๊าซ ทำให้จำเป็นต้องประกาศเข้าสู่ระยะที่ 2 ของแผนฉุกเฉินรับมือวิกฤตขาดแคลนก๊าซ ระยะที่ 2 อยู่ในระดับเตือนภัยเมื่อรัฐบาลเห็นว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการขาดแคลนก๊าซในระยะยาว ก่อนหน้านี้รัฐบาลประกาศเริ่มเข้าสู่ระยะที่ 1 ของแผนฉุกเฉินเมื่อสิ้นเดือน มี.ค. เมื่อปริมาณก๊าซที่ส่งมาจากรัสเซียลดน้อยลง
ส่วนระยะที่ 3 ที่เป็นขั้นสุดท้ายจะใช้มาตรการปันส่วน ก๊าซครัวเรือนเอกชนจะได้รับการจัดสรรก๊าซนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนภาคอุตสาหกรรมจะต้องถูกลดปริมาณลง ขณะที่ด้านบริการสาธารณะ เช่น โรงพยาบาล หน่วยดับเพลิง ตำรจและทหารจะได้รับการคุ้มครองไม่ต้องถูกลดก๊าซ
การตัดสินใจปรับสู่ระยะที่ 2 มีขึ้นหลังจากบริษัทก๊าซพรอมของรัสเซียลดการปล่อยก๊าซผ่านท่อส่งนอร์ดสตรีม 1 แก่เยอรมนีเหลือเพียง 40% ในสัปดาห์ที่แล้ว และผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นการนับถอยหลังสู่การตัดก๊าซอย่างสิ้นเชิง
นายฮาเบ็กแถลงเรียกร้องให้ประชาชนลดการใช้ก๊าซในช่วงฤดูร้อนนี้ แม้ว่าทุกคนอยากเดินทางออกไปพักผ่อนหลังเผชิญมาตรการควบคุมโควิด-19 มาอย่างยาวนาน เพื่อให้มีปริมาณก๊าซเพียงพอเมื่อถึงฤดูหนาว เขากล่าวอีกว่าสถานการณ์ในขณะนี้อยู่ในระดับน่าวิตก พร้อมกับย้ำว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกในเวลานี้ คือต้องแสวงหาก๊าซมาเติมในคลังสำรอง โดยขณะนี้กำลังหาทางจัดซื้อจากผู้ผลิตรายอื่น และกำลังพัฒนาพลังงานทางเลือกอื่น ๆ
เมื่อวันอาทิตย์เขาเพิ่งแถลงด้วยความเศร้าใจว่า เยอรมนีอาจจำเป็นต้องกลับมาเปิดโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินอีกครั้งทั้งที่ตั้งเป้าว่าจะเลิกใช้ถ่านหิน เพราะเสี่ยงว่าจะมีก๊าซสำรองไม่เพียงพอสำหรับฤดูหนาว