เจ้าหน้าที่กรมตรวจคนเข้าเมืองและย้ายถิ่นฐานของศรีลังกา กำลังทำงานอย่างหนักในการออกหนังสือเดินทางฉบับใหม่ หลังประชาชนหลายร้อยคนแห่เข้าแถวรอรับหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ด้วยความหวังว่าจะเดินทางออกนอกประเทศเพื่อหนีความทุกข์ยาก จากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปี
เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสคนหนึ่งเปิดเผยว่า ไม่เคยเห็นความต้องการหนังสือเดินทางมากมายขนาดนี้มาก่อน ในช่วง 6 ปีที่ทำงานที่นี่ และพนักงานทั้ง 160 คน กำลังเหนื่อยล้าอย่างมากที่จะต้องเร่งออกหนังสือเดินทางเล่มใหม่ให้ทันกับความต้องการ โดยต้องทำงานทุกวันเสาร์ด้วย ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 ศรีลังกาออกหนังสือเดินทางแล้ว 288,645 เล่ม เมื่อเทียบกับ 91,331 เล่ม ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
กรมตรวจคนเข้าเมืองและย้ายถิ่นฐานต้องขยายเวลาทำงาน และเพิ่มจำนวนหนังสือเดินทางที่ออกใหม่ถึง 3 เท่า แต่ก็ยังมีประชาชนอย่างน้อย 3,000 คน เข้ายื่นเอกสารขอพาสปอร์ตใหม่ในแต่ละวัน มีรายงานว่าประชาชนเข้าแถวรอยาวเหยียดจนล้นออกไปนอกสำนักงาน และแม่บ้าน วัย 50 ปี บอกว่าเข้าแถวรอมานาน 3 วัน หลังจากขึ้นรถไฟจากเมืองตรินโคมาลี บ้านเกิดในภาคตะวันออกเข้าสู่กรุงโคลอมโบเพื่อยื่นขอพาสปอร์ตเล่มแรกในชีวิต เพื่อหวังไปสมัครงานเป็นผู้ช่วยแม่บ้านในคูเวต ส่วนสามีเป็นเกษตรกรหารายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว
นอกจากนี้ยังมีแรงงาน เจ้าของร้านค้า เกษตรกร ข้าราชการ และแม่บ้านอีกจำนวนมากปักหลักรอข้ามคืนเพื่อขอหนังสือเดินทาง โดยมีค่าใช้จ่ายราว 30,000-35,000 รูปี หรือ 3,000- 3,500 บาท ในการขอพาสปอร์ต 1 เล่ม ชาวศรีลังกาเร่งรีบออกนอกประเทศ หลังจากนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห เตือนว่าจะเกิดวิกฤตอาหารในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ประเทศที่มีประชากร 22 ล้านคน ประสบปัญหาขาดแคลนทั้งอาหาร ก๊าซหุงต้ม เชื้อเพลิง และยารักษาโรคมานานหลายเดือนแล้ว ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อสูงกว่า 33% และการอ่อนค่าของเงินรูปี รวมถึงความไม่แน่นอนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ