วันนี้ (15 มิ.ย.) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสเฟชบุ๊กส่วนตัวสะท้อนมุมมองถึงภาวะค่าเงินบาทของไทยที่มีทิศทางอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยขณะนี้ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท แตะระดับ 35 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปีว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในคืนนี้ คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ซึ่งหากเป็นไปตามนี้จะยิ่งทำให้ค่าเงินบาทของไทยมีแนวโน้มที่จะปรับตัวอ่อนค่าลงอีกเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทิศทางดังกล่าวนั้นสำหรับไทยแล้วเป็นทั้งโอกาส และความเสี่ยงขึ้นอยู่กับแผนการรับมือของภาครัฐและเอกชน
"เราอาจใช้ความเสี่ยงเป็นโอกาสสำหรับพอร์ตการลงทุนธุรกิจ และการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจได้เพราะค่าเงินบาทที่อ่อนค่านั้น แม้จะส่งผลลบต่อต้นทุนการนำเข้าสินค้าทั้งวัตถุดิบต่าง ๆ และน้ำมันที่จะแพงขึ้น แต่ในแง่ผลบวกจะดีต่อการส่งออกของไทยที่จะมีรายได้ในรูปของเงินบาทที่เพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวที่จะดึงให้คนมาเที่ยวมากขึ้น เป็นจังหวะที่ไทยมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งส่งออกและท่องเที่ยวจะช่วยเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังให้ทยอยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น" ศ.ดร.นฤมล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.นฤมล ได้สะท้อนความเห็นว่า สิ่งสำคัญสุดสำหรับค่าเงินบาท คือจะต้องสะท้อนตามภูมิภาคไม่เกิดการผันผวนแบบอ่อนค่าเร็วไป เพราะจะส่งผลให้ผู้ประกอบการบริหารต้นทุนได้ยากขึ้นโดย และกระทบกับการตั้งราคาเสนอขายสินค้าส่งออก ดังนั้นทุกภาคส่วนจำเป็นที่จะต้องมีการบริหารจัดการทั้งป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดผลลบ และแสวงโอกาสจากปัจจัยบวกให้ได้
#ในร้ายมีดี
#ในร้ายมีดี ในความเสี่ยง มีโอกาส