svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

มองข้ามช็อตปรับครม.ส่อเขย่ารัฐนาวาลุงตู่

11 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่แทรกขึ้นมา และอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างไม่คาดคิด ก็คือความจำเป็นของการปรับคณะรัฐมนตรี 

หากยังจำได้ว่า เก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังว่างอยู่อีก 2 ตำแหน่ง จึงยังมีรัฐมนตรีได้อีก 2 คน โดยเก้าอี้รัฐมนตรีที่ว่างอยู่ มาจากการปลด "ผู้กอง" หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับ "อาจารย์แหม่ม" นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ กับ รมช.แรงงาน ตั้งแต่เดือนก.ย. ปีที่แล้ว 

 

งานนี้ต้องถือว่า "รัฐบาลลุงตู่" สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เพราะปกติเก้าอี้รัฐมนตรีมีแต่จะแย่งกัน ว่างเมื่อไหร่ ต้องหาคนเสียบเมื่อนั้น เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมืองในพรรครัฐบาล แต่ปรากฏว่าเก้าอี้ 2 ตัวนี้ว่าง นายกฯกลับไม่ตั้งใครแทน และทำท่าจะร้างจนถึงหมดวาระ เพื่อป้องกันการเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง 

 

เนื่องจากการปรับ ครม. ย่อมเกิดแรงกระเพื่อม เพราะตำแหน่งมีน้อยกว่าคนอยากได้ และบางคนก็อยากล้างไพ่ เปลี่ยนเก้าอี้ เช่น เก้าอี้รมว.พลังงาน ซึ่งมีคนหมายปอง จึงอาจมีการเคลื่อนไหวต่อรองจนกระทบเสถียรภาพของรัฐบาลได้เหมือนกัน

แต่ล่าสุดนายกฯ น่าจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปรับ ครม. เพราะ "กนกวรรณ วิลาวัลย์" รมช.ศึกษาธิการ ของพรรคภูมิใจไทย เจอ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีออกโฉนดที่ดินรุกป่าเขาใหญ่ในพื้นที่ปราจีนบุรี และโดนข้อหาละเมิดมาตรฐานจริยธรรมพ่วงท้าย มีโอกาสลงเอยเหมือน "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พลังประชารัฐ ซึ่งถูกศาลฎีกาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่งในที่สุด 

 

ถ้าเทียบเวลาการทำงานของ ป.ป.ช. ในคดี "เอ๋ ปารีณา" ใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูล และเรื่องถึงศาลฎีกา โดยศาลสั่งหยุดปฏิบ้ติหน้าที่ทันที ถ้าเทียบกรอบเวลาเดียวกัน เผลอๆ กรณี "ครูพี่โอ๊ะ" กนกวรรณ อาจเห็นหน้า เห็นหลัง ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยซ้ำ 

 

แต่หากจะมีการปรับครม. ถึงอย่างไรนายกฯก็ต้องดึงไปปรับหลังผ่านศึกซักฟอก เพื่อป้องกันแรงกระเพื่อม และอาจนำเก้าอี้มาแลกเปลี่ยนกับการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย 

การปรับ ครม.หนนี้ คาดว่าเป็นหนสุดท้ายก่อนหมดวาระ แม้จะดูเหมือนง่าย เพราะเก้าอี้ว่าง 3 ตำแหน่ง และเป็นรัฐมนตรีช่วยทั้งหมด แต่เวลาปรับจริง มีสิทธิ์กระเพื่อมหนัก เพราะ

 

1.โควต้าพรรคภูมิใจไทย จะปรับเฉพาะของตัวเอง หรือขอเก้าอี้เพิ่ม เพราะภูมิใจไทย ได้ ส.ส.เพิ่มมาอีก 10 กว่าคน จากเดิม 50-51 ที่นั่ง แต่ปัจจุบัน 62-63 ที่นั่ง ขณะที่เก้าอี้รัฐมนตรีอยู่ในสัดส่วน ส.ส. 7 ต่อ 1 หรือ 8 ต่อ 1 เท่านั้น 

 

2.ถ้าภูมิใจไทย ขอโควต้าเพิ่ม นายกฯต้องคิดหนักว่าจะเฉือนโควต้าพรรคไหนให้ภูมิใจไทย 

 

-ถ้าเฉือนประชาธิปัตย์ ยุ่งแน่

 

-ถ้าเอาโควต้าที่ว่างอยู่ 2 เก้าอี้ คือโควต้าพลังประชารัฐ ไปมอบให้ภูมิใจไทย จะเกิดปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐหรือเปล่า

 

3.กลุ่มก๊วนต่างๆ ในพรรคพลังประชารัฐ จะขยับแย่งเก้าอี้กันอีกหรือไม่ โดยเฉพาะคนอยากเปลี่ยนกระทรวง อย่าง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม จากกลุ่มสามมิตร 

 

ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ ถ้าเกิดขึ้นจริง จะเป็นการปรับ ครม. ​ก่อนหมดวาระและเลือกตั้ง ฉะนั้นถ้าผิดใจกัน มีสิทธิ์สะเทือนถึงการเลือกตั้งเลยทีเดียว 

 

4.พรรคเศรษฐกิจไทยจะต่อรองเก้าอี้หรือไม่ เพราะเป็นโควต้าเดิมของผู้กองธรรมนัส กับอาจารย์แหม่ม 

 

5.ถ้านายกฯตัดสินใจปรับ ครม.แบบ "ปรับใหญ่" จะกลายเป็นตอบแทนทางการเมือง มากกว่าหาคนดีคนเก่งมาบริหารประเทศหรือไม่ 

 

พูดง่ายๆ คือ ปรับไม่ดี มีแต่เสียกับเสีย แถมเสียคะแนนนิยมอีกต่างหาก โดยเฉพาะถ้าเครือข่ายผู้กอง ได้เข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ก็อาจทำให้นายกฯตอบสังคมลำบาก 

 

นี่คือโจทย์ยากของการปรับ ครม.

logoline