โดนอีก "ทนายอั๋น" บุกจี้สภาทนายความเอาผิด “ศรีสุวรรณ” แอบอ้างตัวเป็นทนาย"

ถูกทัวร์ลงอย่างมากหนักสำหรับนายศรีวุรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย หลังออกมาเคลื่อนไหวตรวจสอบและกัดไม่ปล่อยผู้ว่าฯ ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จนนำมาสู่การถูกชาวเน็ตตั้งแคมเปญถอดถอนจากตำแหน่งเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย

และที่หนักสุดคือการถูก นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือร้องเรียน ให้อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะนายทะเบียนกรุงเทพ เพื่อขอเพิกถอนชื่อสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยของนายศรีสุวรรณ (อ่านข่าว) 

ล่าสุดวิบากกรรมของนายศรีสุวรรณยังคงไม่สิ้นสุด เมื่อวันนี้ (8 มิ.ย.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” ทนายความชื่อดัง ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมเปิดเผยว่า ได้เดินทางไปที่สภาทนายความ เพื่อยื่นเรื่องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายศรีสุวรรณ ที่เข้าข่ายความผิดในลักษณะแอบอ้างตนว่า เป็นทนายความ จนทำให้องค์กรทนายความอาชีพ ได้รับความเสียหายจากพฤติกรรมดังกล่าว

ทนายอั๋น ระบุว่า ตนได้นำหลักฐานเป็นคลิปสัมภาษณ์ของนายศรีสุวรรณ ซึ่งออกอากาศทางรายการสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์ในรายการว่า รับทำคดีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 พันคดี และมีรายได้หลักเพียงทางเดียวจากการรับทำคดีต่าง ๆ และยังมีการใช้คำว่า "ลูกความ" โพสต์ในเฟซบุ๊กอีกด้วยว่า ให้ลูกความทั่วประเทศของเขาคว่ำบาตรพรรคการเมืองพรรคหนึ่งอีกด้วย ซึ่งคำว่าลูกความนั้น หมายถึงตัวคนโพสต์เองเป็นทนายความ ทั้งที่นายศรีสุวรรณไม่ได้เป็นทนายความอย่างแท้จริง

จากพฤติกรรมของนายศรีสุวรรณที่ผ่านมา ที่มีพฤติกรรมในลักษณะแอบอ้างตัวว่าเป็นทนายความ รับทำคดีต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้ตนเองมีอาชีพเป็นทนายความเช่นกันเกิดความสงสัยว่า นายศรีสุวรรณมีอาชีพเป็นทนายความจริงหรือไม่ จึงยื่นให้สภาทนายความตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพทนายความของนายศรีสุวรรณ แต่ปรากฎไม่พบว่านายศรีสุวรรณได้รับใบประกอบวิชาชีพทนายความใด ๆ 
 

ดังนั้นตนจึงต้องการให้ทางสภาทนายความตรวจสอบนายศรีสุวรรณต่อไปอีกว่า หากนายศรีสุวรรณไม่ได้มีอาชีพทนายความที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่พฤติกรรมที่ไปแอบอ้างในลักษณะว่า ตนเองเป็นทนายความ ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด มีการเรียกรับเงินค่าดำเนินการในทำคดีจากผู้หลงเหลือเป็นจำนวนมาก ตนจึงต้องการให้ทางสภาทนายความออกมาดำเนินการในเรื่องนี้เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาแบบอย่างต่อไป 

นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า จากพฤติกรรมของนายศรีสุวรรณที่เข้าข่ายแอบอ้างตัวเป็นทนายความ เรียกรับเงินในการทำคดีต่าง ๆ หากมีผู้เสียหายรายใดที่หลงเชื่อไปว่าจ้างนายศรีสุวรรณให้ทำคดีแล้วไม่สำเร็จ หรือคดีถูกทิ้งไว้จนได้รับความเสียหาย ขอให้ติดต่อมาที่ตน ตนพร้อมจะพาผู้เสียหายไปเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณเป็นรายบุคคลต่อไป