svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ซีโร่โควิดเป็นเหตุ หลี่ เค่อเฉียง ท้าทายอำนาจสี จิ้นผิง

07 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลังใช้ยาแรง "โควิดเป็นศูนย์" ล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ศูนย์กลางทางการเงินเกือบ 3 เดือน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ทำให้นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง แหวกธรรมเนียมด้วยการตำหนิอย่างตรงไปตรงมา น่าสงสัยว่าต้องมีความขัดแย้งภายในพรรคคอมมิวนิสต์อย่างแน่นอน

บรรดานักสังเกตการณ์การเมืองจีน กำลังตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในหมู่ผู้กุมอำนาจระดับสูง หลังจากนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เรียกประชุมเจ้าหน้าที่บริหารระดับท้องถิ่น 100,000 คน และให้รีบดำเนินการโดยทันทีเพื่อให้สถานการณ์ในประเทศกลับมามี "เสถียรภาพ" หลังเผชิญ "ความไม่พอใจของสาธารณชน ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสายตาชาวโลก" และ "หายนะ" ทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลมาจากนโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" (Zero Covid) จากการปิดนครเซี่ยงไฮ้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกนานกว่า 2 เดือน 

 

ในการประชุมทางไกลของคณะมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน (State Council) นายหลี่บอกว่าเศรษฐกิจของจีนกำลังเผชิญความท้าทายที่ยิ่งกว่าเมื่อตอนเริ่มต้นการระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2563 เพราะทั้งการจ้างงาน, การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการบริโภคพากันล้มคว่ำ คำพูดของเขาสะท้อนความเอือมระอาของนักธุรกิจต่างชาติ ที่เคยเชื่อมั่นต่อความสามารถในการจัดการวิกฤตและการผลักดันเศรษฐกิจของจีน แต่สถานการณ์ในเซี่ยงไฮ้ทำให้พวกเขาต้องเรียกร้องให้ยุตินโยบายโควิดเป็นศูนย์ 

 

ซีโร่โควิดเป็นเหตุ หลี่ เค่อเฉียง ท้าทายอำนาจสี จิ้นผิง

 

ความโกรธแค้นและสิ้นหวังของชาวเซี่ยงไฮ้ได้ถูกระบายผ่านคลิปวิดีโอ ทั้งการร้องขออาหาร นมผงสำหรับทารก ยารักษาโรค และปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ซึ่งแม้จีนจะมีระบบเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดแต่ก็ยากจะยับยั้งคลิปวิดีโอหลายหมื่นชุด ที่ถูกโพสต์ลงในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนและหลุดออกไปสู่โลกภายนอก ที่สะท้อนภาพการใช้ชีวิตที่ยากลำบากของผู้คนในพื้นที่ล็อกดาวน์ ได้รับการปฏิบัติอย่างหยาบคายจากเจ้าหน้าที่ และแม้จะโดนไล่ลบก็ยังมีชุดใหม่ผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่น "Sound of April" ที่มียอดวิวในจีนมากกว่า 400 ล้านครั้ง แม้เป็นแค่ภาพขาวดำของนครเซี่ยงไฮ้ แต่ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ผู้คนพูดถึง เช่น ทารกที่ถูกแยกจากพ่อแม่ สุนัขคอร์กีถูกฆ่าหลังจากเจ้าของไปกักตัว โรงพยาบาลไม่รับผู้ป่วย กับเรื่องราวดี ๆ เช่น คุณป้านำอาหารไปให้เพื่อนบ้าน และตำรวจนำอาหารไปให้คนขับรถ แม้คลิปจะถูกลบในจีนก็ยังสามารถดูได้จากแพลตฟอร์มต่างประเทศอย่าง "youtube" ที่มีคนเอาไปใส่คำบรรยายภาษาอังกฤษ

 

ซีโร่โควิดเป็นเหตุ หลี่ เค่อเฉียง ท้าทายอำนาจสี จิ้นผิง

 

แน่นอนว่าเสียงตำหนิจากนโยบายที่เข้มงวดนี้ได้ถาโถมไปที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทั้งการเผชิญกระแสเงินทุนไหลออกอย่างไม่เคยปรากฎก่อน เพราะบริษัทต่างชาติต้องชะลอการผลิตหรือถอนธุรกิจออกไป และการประเมินตัวเลขของนักเศรษฐศาสตร์ที่ว่า จีนจะต้องแบกรับภาระทางการเงินเดือนละอย่างน้อย 46,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.1% ของ GDP แต่นักวิเคราะห์มองว่าการยอมเจ็บตัวครั้งนี้ เป็นความพยายามที่จะชูนโยบาย "ประชาชนมาก่อน" ด้วยการควบคุมตัวเลขการติดเชื้อให้ต่ำเพื่อเน้นย้ำความห่วงใย แต่พรรคคอมมิวนิสต์ก็คือพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ใช้วิธีการบังคับแทนที่จะมอบสิทธิ์ในการเลือกให้ประชาชน 

 

ซีโร่โควิดเป็นเหตุ หลี่ เค่อเฉียง ท้าทายอำนาจสี จิ้นผิง

 

 

นักวิเคราะห์เชื่อด้วยว่า วัตถุประสงค์หลักที่อยู่เบื้องหลังนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ไม่ใช่การต่อสู้กับโรคระบาดแต่เพื่อค้ำจุนอำนาจของประธานาธิบดีสี หลังจากสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน (NPC ) เห็นชอบต่อการแก้ไขธรรมนูญของพรรค มอบตำแหน่ง "ผู้นำตลอดชีพ" ให้ประธานาธิบดี จากที่จำกัดไว้สูงสุดแค่ 2 สมัย สร้างความไม่พอใจให้สมาชิกหลายคนในพรรคคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะนายหลี่ ที่เชื่อว่าจะไม่สบอารมณ์กับความไม่เท่าเทียม โดยในขณะที่ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้อย่างไม่จำกัด แต่นายกรัฐมนตรีกลับถูกจำกัดให้ดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 วาระ และไม่เกิน 10 ปี ซึ่งนายหลี่ที่ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ปี 2556 กำลังจะครบวาระ โดยยังไม่รู้ว่าจะได้ไปต่อหรือไม่ ถ้าได้จะดำรงตำแหน่งอะไร

 

แม้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก NPC โดยการเสนอชื่อจากประธานาธิบดี แต่ในทางปฏิบัติผู้สมัครจะต้องผ่านการพิจารณาและคัดกรองโดยคณะกรรมการกรมการเมือง (Politburo) ที่กำลังดำรงตำแหน่ง ร่วมกับคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (Standing Committee of the Politburo) ซึ่งการเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นหัวหน้ารัฐบาล, ผู้นำของ NPC และที่ปรึกษาของประธานาธิบดี และเป็นผู้นำของเหล่าข้าราชการพลเรือนของรัฐบาลกลางด้วย 

 

ซีโร่โควิดเป็นเหตุ หลี่ เค่อเฉียง ท้าทายอำนาจสี จิ้นผิง

 

แม้จะมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดี แต่แนวคิดของนายหลี่กับประธานาธิบดีสีแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นายหลี่เชื่อในเสรีนิยมและตลาดเสรี ให้ความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่เน้นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เน้นระบบตลาดเสรี การบริโภคภายในประเทศ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติในฐานะผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ไกล เชื่อในการขับเคลื่อนโดยกลไกการตลาด 

 

ส่วนประธานาธิบดีสีก้าวขึ้นสู่อำนาจเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ปี 2555 ตามด้วยการ "ล้างบาง" เจ้าหน้าที่กังฉิน ที่เรียกกันว่า "ตีเสือและแมลงวันไปพร้อม ๆ กัน" โดยคนเหล่านี้มีทั้งผู้บริหารทั้งในพรรคคอมมิวนิสต์ รัฐบาล และรัฐวิสาหกิจระดับสูง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขายืมมือหน่วยปราบการทุจริตประพฤติมิชอบมาจัดการกับศัตรูทางการเมือง เพื่อสร้างฐานการเมืองของตัวเอง

 

ซีโร่โควิดเป็นเหตุ หลี่ เค่อเฉียง ท้าทายอำนาจสี จิ้นผิง

 

นอกจากพวกกังฉินแล้วยังลามไปถึงเหล่าเซเลบกับอินฟลูเอนเซอร์ด้วย มีหลายคนที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล โดนข้อหาหนัก ๆ เช่น ฟ่าน ปิงปิง, จ้าวเหว่ย ที่เป็นในรูปแบบของการเลี่ยงภาษี ส่วนแจ็ค หม่า ถูกเล่นงานหนักทั้งเรื่องที่ Ant Group โดนระงับการขายหุ้น IPO และ Alibaba โดนตรวจสอบเรื่องการผูกขาดตลาด หลังวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานกำกับดูแลระบบการเงินของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังโดนตำหนิจากภายนอกในเรื่องของสิทธิมนุษยชนในประเด็นชาวอุยกูร์ และล่าสุดการใช้ยาแรงควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายใต้มาตรการ "โควิดเป็นศูนย์"

 

ซีโร่โควิดเป็นเหตุ หลี่ เค่อเฉียง ท้าทายอำนาจสี จิ้นผิง

logoline