"ชัชชาติ"ย้ำรอฟังศบค.ยินยอมให้ถอดหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะได้หรือไม่

6 มิถุนายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้บริหาร กทม. นัดแรก หลังใช้เวลาหารือนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า วันนี้ (6มิ.ย.) มีวาระการประชุม 4 เรื่อง คือ สถานการณ์โควิด โดยที่ประชุมก็ได้สอบถามเรื่องการถอดหน้ากากอนามัย แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม ศบค.เป็นหลัก แต่ดูจากสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเขื้อแล้ว สถานการณ์ผ่อนคลายลงมาก

"ประเด็นเรื่องการถอดหน้ากาก จะนำเข้าที่ประชุมในชุด ศบค. กรุงเทพ อีกครั้ง แต่ส่วนตัวคิดว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว เพราะตัวเลขของผู้ป่วยลดลงเยอะ อัตราเตียงที่ว่างก็มีจำนวนมาก ทำให้ตัวเลขไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร ซึ่งจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปหารือกับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง" นายชัชชาติ กล่าว 

ส่วนการหารือเรื่องฝีดาษลิง ซึ่งเป็นโรคติดต่อ แต่ก็ยังไม่มีตัวเลขในประเทศไทย และวานนี้ (5มิ.ย.) ที่มีการจัดกิจกรรมไพรม์ ที่มีคนมากันจำนวนมาก อาจจะมีข้อกังวลเรื่องโรคระบาดฝีดาษลิง แต่วันนี้ก็ยังไม่มีตัวเลขรายงานในประเทศไทย และการติดต่อก็คนละรูปแบบกับโควิด ดังนั้น จึงให้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นต่อไป เพราะยังเป็นข้อกังวล

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใย เรื่องการจัดกิจกรรมของกทม.ข่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา อาจเกิดคลัสเตอร์ได้นั้น ก็ต้องขอขอบคุณนายกฯที่แสดงความเป็นห่วง แต่ก็คงต้องติดตามสถานการณ์และต้องเก็บข้อมูลต่อเนื่อง โดยกำชับให้ดูข้อมูล และมอบหมายให้ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่ากทม. ซึ่งดูแลเรื่องสาธารณสุข ดูตัวเลขว่าจะมีเพิ่มขั้นหรือไม่

"ผมเองมองว่า เป็นก้าวที่ค่อยๆเข้าสู่ชีวิตปกติ และทุกคนที่มา ก็ใส่หน้ากาก มีมาตรการ ซึ่งก็ต้องค่อยดูตัวเลขว่ามีผลกระทบอย่างไร เพราะที่ผ่านมา ก็ไม่ได้เห็นคลัสเตอร์อะไรมาก แต่ก็มอนิเตอร์อย่างเข้มข้น และก็พร้อมรับข้อเป็นห่วงของทุกฝ่ายเพื่อนำมาติดตามสถานการณ์" ผู้ว่าฯ กทม. ระบุ

ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม นายชัชชาติ ได้สอบถามกับที่ประชุมว่า ควรจะไม่ต้องใส่หน้ากากในที่โล่งแจ้งหรือยัง

โดยเจ้าหน้าที่สำนักการแพทย์ ระบุว่า ในมุมมองของทางการแพทย์ ทางกระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างวางแผนอยู่แล้ว ว่าจะถอดหน้ากากอนามัยในที่โล่งแจ้ง และที่สาธารณแบบไหน และถ้าถอดแล้วต้องมองภาพ เว้นระยะห่างด้วย ซึ่งต้องดูตัวเลขความรุนแรงของการป่วย ปัจจุบันตัวเลขผู้ป่วยโควิดของกทม.1400-1500 คน/วัน ถ้าหาก ในพื้นที่กทม.น้อยกว่า 500 คนต่อวัน ก็พอจะต่อรองกับกระทรวงสาธารณสุข ให้เสนอ ศบค. ให้ถอดหน้ากากได้หรือไม่ 

นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังสอบถามถึงการการแพร่ระบาดโรคฝีดาษลิง การติดต่อ และการป้องกัน เพื่อจะนำข้อมูลมาทำความเข้าใจประชาชน โดยเฉพาะกรณีที่มีการจัดงานไพรด์เมื่อวานนี้ ซึ่งที่ประชุมชี้แจงว่าในขณะจัดงานสิ่งที่เป็นห่วง คือ การแพร่ระบาดโควิดมากกว่า ส่วนการติดต่อฝีดาษลิง คือ หลังจากจัดงานแล้วมีการไปปาร์ตี้กันต่อ

นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังถามถึงประเด็นตรวจ ATK ฟรี ให้กับประชาชน และการมี ATK พาสปอร์ตในที่ประชุมด้วย อีกทั้ง ยังมีข้อสั่งการในที่ประชุมด้วยว่า บทเรียนของโควิด เป็นบทเรียนสำคัญ และจากการลงพื้นที่ของตนเองมากกว่า 2 ปี พบปัญหาการประสานงานสำคัญ จึงอยากให้นำบทเรียนจากโควิดมาปรับโครงสร้างระบบสาธารณสุขใหม่ ว่าควรมีศูนย์ประสานงานหรือไม่อย่างไรด้วย