Platinum Jubilee สมเด็จพระราชินีที่จับต้องได้
ภาพความประทับใจที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงร่วมเสวยพระสุธารส (น้ำชา) กับหมีแพดดิงตัน เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงยอมให้ใช้เวลาถึงครึ่งวันในการถ่ายทำ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ราชวงศ์อังกฤษเป็นสถาบันที่จับต้องได้และใกล้ชิดประชาชนมากกว่าอดีต
ภาพความประทับใจที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชทานให้ผู้ชมการถ่ายทอดสด Platinum Party at the Palace ทางช่อง BBC คือ ทรงมีแขกร่วมโต๊ะเสวยพระสุธารสที่ปราสาทวินด์เซอร์ เป็นหมีแพดดิงตันที่ออกมาจากป่าลึกในเปรู ซึ่งเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์ของมาร์ค ซิดอะเวย์ เอ็กซ์คลูซีฟโปรดิวเซอร์ของ BBC ที่บอกว่าทีมงานรู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติอย่างยิ่งเมื่อทราบว่า สมเด็จพระราชินีทรงตกลงที่จะดำเนินการตามแนวคิดที่น่าประทับใจและสนุกสนาน ที่ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างบรรยากาศภายในห้องเสวย ก่อนที่พระองค์และแพดดิงตันจะใช้ช้อนเงินเคาะจังหวะเพลง "We will rock you" ที่ถ้วยชา เพื่อส่งไปยังการแสดงสดของวง Queen กับนักร้องนำ อดัม แลมเบิร์ท
สมเด็จพระราชินีทรงมีพระประสงค์จะ "เซอร์ไพรซ์" สมาชิกพระราชวงศ์ ที่ประทับอยู่ในสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตด้วย หลังจากทรงใช้เวลาถึงครึ่งวันในการถ่ายทำที่ปราสาทวินด์เซอร์ ที่ถูกสมมติให้เป็นพระราชวังบักกิงแฮม ส่วนหมีแพดดิงตันปกติจะมีศีรษะกลที่ใช้ในการถ่ายทำ พากย์เสียงโดยเบน วิสชอว์ นักแสดงชาวอังกฤษที่รับบท Q ในภาพยนตร์เรื่อง James Bond ซึ่งปรากฎว่าได้รับการชื่นชมอย่างมากจากผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ที่บอกว่าดีกว่าเมื่อครั้งคลิปวิดีโอที่ใช้เปิดการแข่งขัน Olympic London 2012 ที่ตอนนั้นใช้ธีมภาพยนตร์เรื่อง James Bond
ในคลิปวิดีโอยังเผยให้เห็นในสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ โดยเมื่อแพดดิงตันหยิบขนมปังทาแยมมาร์มาเลดออกจากหมวก สมเด็จพระราชินีก็ทรงหยิบของพระองค์ออกจากกระเป๋ามาให้ดูเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงโปรดและเก็บไว้ในยามฉุกเฉินในกระเป๋าถือที่เป็น "เครื่องหมายการค้า" ของพระองค์ ทำให้ชาวโซเชียลบอกว่าคลิปนี้ช่วยให้คลายข้อสงสัยแล้วว่าในกระเป๋าของสมเด็จพระราชินีมีอะไร และแม้จะมีความยาวเพียงแค่ 2 นาทีครึ่ง แต่เวลาที่ใช้ถ่ายทำจริงยาวถึงครึ่งวัน สำนักพระราชวังได้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของเทคนิคการถ่ายทำที่ว่า สมเด็จพระราชินีทรงมีพระปฏิสันถารกับหมีได้อย่างไร โดยระบุว่า ไม่ต้องการ "ทำลายสิ่งมหัศจรรย์" ที่เกิดขึ้น
นอกจากความประทับใจที่กระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าในโลกโซเชียลมีเดียแล้ว ยังมีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญภาษากายที่มองว่า "ควีนยังคงเป็นควีน" แม้สมเด็จพระราชินีจะทรงมีพระชนมายุ 96 พรรษาแล้ว แต่ยังทรงมีความ "คงเส้นคงวา" ในเรื่องของการเก็บซ่อน "อารมณ์ ความรู้สึก และน้ำตา" โดยในพิธีเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี (Platinum Jubilee) ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ เห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงกลั้นน้ำพระเนตรไม่ให้ไหลออกมา โดยใช้ "พลังทั้งหมดเท่าที่มี" ตอนที่ออกสีหบัญชร เพื่อทอดพระเนตรพสกนิกรที่มาเฝ้าถวายพระพร ในวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเฉลิมฉลอง การปรากฎพระองค์ในครั้งนี้ก็เพื่อตอกย้ำว่า "ทรงมุ่งมั่นที่จะรับใช้ประเทศชาติอย่างสุดความสามารถของพระองค์"
แต่แม้จะไม่ทรงเปลี่ยนเรื่องการวางพระองค์ แต่ทรงปรับพระองค์ให้เข้ากับสถานการณ์ความเป็นไปในโลก โดยเฉพาะ "ความพึงพอใจของเหล่าปุถุชน" แม้ที่ผ่านมาจะมีการนำเอาคาแรกเตอร์ของพระองค์ไปใช้ภาพยนตร์หลากหลายแนว รวมทั้งที่อ้างอิงจากเรื่องจริงอย่าง "The Crown" แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการที่ทรงมีส่วนร่วมด้วยพระองค์เอง เช่น ทรงเคยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิก 2012 กับนักแสดงชื่อดัง แดเนียล เคร้ก และล่าสุดกับหมีแพดดิงตัน ที่แสดงให้เห็นว่าราชวงศ์อังกฤษในยุค Platinum Jubilee ไม่ได้เป็นแต่เพียงศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ ที่แสนจะห่างไกล แต่เป็นสถาบันที่จับต้องได้และใกล้ชิดกับประชาชนมากยิ่งกว่าในอดีต
