วานนี้ (2 มิ.ย.) มีรายงานว่า องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ประกาศว่า ทางการตุรกีได้แจ้งต่อยูเอ็นว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปต้องการให้เรียกว่า “ตุรเคีย (Turkiye)” ในทุกภาษา โดย นายสเตฟาน ดูฌาร์ริก โฆษกเลขาธิการยูเอ็นระบุว่า “การเปลี่ยนแปลงมีผลในทันที” และได้ระบุว่า ได้รับจดหมายขอเปลี่ยนชื่อจากรัฐบาลตุรกี ที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้นายแมฟลุต ชาวุโชลู รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของตุรกี ได้ทวีตภาพ ตัวเองลงนามในจดหมายที่ส่งถึงนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการยูเอ็น พร้อมระบุว่า จดหมายที่ข้าพเจ้าได้ส่งให้เลขาธิการยูเอ็นในวันนี้ ได้กำหนดชื่อประเทศตุรกีในภาษาต่างประเทศให้เป็นชื่อ ตุรเคีย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเพิ่มคุณค่าของชื่อประเทศ ตามแนวทางที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกีที่ปกครองประเทศมาเกือบ 20 ปี
ทั้งนี้ในช่วงหลายปีมานี้ ตุรกีได้เริ่มเปลี่ยนชื่อประเทศบนสินค้าจากทำในประเทศตุรกีเป็นตุรเคีย (made in Turkiye) นอกจากนี้การเปลี่ยนเป็น "ตุรเคีย" ยังทำให้ใกล้เคียงกับตัวเขียนในภาษาตุรกีมากขึ้น และยังทำให้แตกต่างจากคำว่าไก่งวง (Turkey) ในภาษาอังกฤษด้วย นอกจากนี้คำว่าตุรกีในพจนานุกรมภาษาอังกฤษเคมบริดจ์ยังหมายถึง สิ่งที่ล้มเหลวอย่างมาก หรือ คนโง่ อีกด้วย
ทั้งนี้สื่อท้องถิ่นยังมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจจะเกี่ยวโยงกับเรื่องทางการเมือง เพราะมีการผลักดันเรื่องนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้าหลังจาก “เรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน” ประธานาธิบดีตุรกี ออกบันทึกข้อตกลงและขอให้สาธารณชนเปลี่ยนไปใช้ชื่อประเทศว่าตุรเคีย
ผู้ใช้โซเชียลมีเดียบางคนวิจารณ์ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลตุรกีนั้นไร้สาระ ขณะที่างคนเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่จำเป็น
ขอบคุณข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ