ความคืบหน้ากรณีนายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี , น.ส.นฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี และลูกชายหญิง 2 คน ชาว ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย หายออกจากบ้านใน อ.ทุ่งเสลี่ยม พร้อมรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีเทา ทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.65
ก่อนจะพบว่า รถยนต์คันดังกล่าวถูกขายอยู่ในเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ซึ่งทางเจ้าของเต็นท์รถ ได้เปิดหลักฐานยืนยันว่า ซื้อขายรถมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กระทั่งมีข้อมูลว่า ครอบครัวดังกล่าววางแผนหนีหนี้กว่า 10 ล้านบาทนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.สายันห์ แจ่มกระจ่าง ผกก.สภ.บ้านไร่ เปิดเผยความคืบหน้าว่า ครอบครัวทั้ง 4 ชีวิต เดินทางไปประเทศตุรกี ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.ซึ่งทางตำรวจในท้องแจ้งให้ญาติทราบแล้ว
“จากการตรวจเช็กตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า มีหลักฐานการเดินทางของครอบครัวทั้ง 4 คนว่า ได้เดินทางไปตุรกีจริง ในช่วงเวลาประมาณ 20.00-21.00 น.ส่วนที่ญาติติดต่อไม่ได้ อาจเป็นเพราะเดินทางไปต่างประเทศแล้ว และปิดช่องทางการสื่อสาร”
ขณะที่ ตม.จว.สุโขทัย มีหน้งสือบันทึกข้อความ เรื่องตรวจสอบประวัติการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยพบข้อมูลออกนอกราชอาณาจักร ณ ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ บก.ตม.2 ทะเบียนพาหนะ TK0069 เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2565 ยังไม่พบข้อมูลกลับมาในประเทศแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย กล่าวว่า ข้อสงสัยว่าทำไมครอบครัวนี้ต้องหลบหนี เท่าที่ทราบมา พบว่ามีปัญหาหนี้สินประมาณ 10 ล้านกว่าบาท จึงไม่อยากเจอเจ้าหนี้ ทั้งนี้หากเขาประสบปัญหา ต้องการให้ทางตำรวจช่วยเจรจา ก็พร้อมยินดี
ทั้งนี้มีรายงานว่า ทางนายนิรุตน์ ผู้เป็นพ่อ บอกกับคนสนิทว่า จะเดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ โดยต้องการหนีไปตั้งหลักเท่านั้น
นอกจากนี้ผู้เสียหายหลายราย กำลังรวบรวมหลักฐานการกระทำผิดของ น.ส.นฤมล ผู้เป็นแม่ กรณีระดมทุนทำธุรกิจบางอย่าง พร้อมปรึกษาทนายความขอเวลา 3 วัน จึงจะเดินทางเข้าแจ้งความ
ขณะเดียวกันพบรถเก๋งโตโยต้า สีขาว คาดว่าเป็นคันเดียวกับที่ไปรับ น.ส.นฤมล จากปั๊มน้ำมัน จอดอยู่ในบ้านของนายล้วน บุญชู บิดาของนายนิรุตน์ สอบถาม น.ส.หิรัญญา หรือน้องอุ้ย ลูกสาวคนโต เล่าว่า "รถเก๋งคันดังกล่าว พ่อได้ซื้อให้ หลังจากสอบเข้าเรียนต่อได้ที่เชียงใหม่ ตอนนี้อยากให้พ่อแม่กลับมา แลกกับรถก็ได้ ไม่อยากได้รถแล้ว"