"นายก ทม.สิงหนคร" รายงานตัวเอี่ยวคดีขุดดินเขาน้อย วอนอย่าพิพากษาครอบครัว
ตำรวจออกหมายเรียกนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร ลูกชายเจ๊อ้อย เอี่ยวคดีบุกรุกขุดดินบริเวณเขาน้อย ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมขอความเห็นใจจากสังคมว่าอย่าเพิ่งพิพากษาครอบครัวว่าเป็นอาชญากรคาดอาจจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนด้านเอกสารสิทธิ์มากกว่า
จากกรณีบุกรุกโบราณสถานเขาแดงและโบราณสถานเขาน้อย อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากสำนักศิลปากรที่ 11 และ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สงขลา ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมารวม 4 คดี ได้แก่ คดีบุกรุกเขาแดง ซึ่งมีนายสมบัติ เหาตะวนิช คหบดี พร้อมพวกรวม 3 คนเป็นผู้ต้องหา คดีบุกรุกเขาน้อย มีนางสาวจันทิมา จันทร์สว่าง และผู้รับจ้างรวม 2 รายเป็นผู้ต้องหา คดีทุบทำลายฐานเจดีย์องค์ดำ บนยอดเขาแดง ยังไม่มีการจับกุมผู้ต้องหา และคดีบุกรุกเขาน้อย ในลักษณะขุดพื้นที่เชิงเขาลึก 20 เมตรกินเนื้อที่ 4 ไร่เศษ ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 มีนายชาญชญา หรือ เสริมศักดิ์ จันทร์สว่าง หรือ นายกแป็ก อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร หลายสมัย และนางณัฏฐ์ณรัน จันทร์สว่าง หรือ เจ๊อ้อย ภรรยา เป็นผู้ต้องหา
ล่าสุดวันนี้(20 พ.ค.) พนักงานสอบสวนสภ.สิงหนคร ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยได้สรุปสำนวนคดีบุกรุกเขาแดง ส่งพนักงานอัยการแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมสรุปสำนวนคดีบุกรุกเขาน้อย ที่มีนางสาวจันทิมาฯเป็นผู้ต้องหา ส่วนคดีที่มีอดีตนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร เป็นผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล
ซึ่งล่าสุดนั้น ได้ออกหมายเรียก นายกอง จันทร์สว่าง นายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร บุตรชายนายชาญชญาและนางณัฏฐ์ณรันฯ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา บุกรุกพื้นที่โบราณสถาน และ บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 โดยนายกองได้เข้ารายงานตัวตามหมายเรียก พร้อมให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวนในคดีนี้แล้วเมื่อวานนี้(19 พ.ค.)ทำให้คดีนี้นั้นกลุ่มผู้ต้องหาที่บุกรุกโบราณสถานเขาน้อย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์เจดีย์เขาน้อยอายุ 1400 ปี 4 คน เป็นบุคคลในตระกูลจันทร์สว่าง และอีก 1 คนเป็นผู้รับจ้าง
ขณะที่ทีมข่าวติดต่อไปยังนายกอง จันทร์สว่าง นายกเทศบาลเมืองสิงหนครผู้ถูกกล่าวหาได้รับข้อมูลว่า วานนี้(19 พ.ค.) ตนได้เข้าไปตามหมายเรียกในฐานความผิดตามพรบ.โบราณสถานและ พรบ.ป่าไม้ และได้ให้ปากคำแก่พนักงานสอบสวนสภ.สิงหนครและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมและอยากให้สังคมตั้งข้อสังเกตุตลอดจนพิจารณาว่าการโจมตีในครั้งนี้มีวาระทางการเมืองโยงด้วยหรือไม่เพราะใกล้เลือกตั้งครั้งใหญ่แล้วทั้งนี้ไม่ตนไม่อยากฟันธง
"มาถึงวันนี้ผมยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม แต่คิดว่าอาจจะเป็นความเข้าที่คลาดเคลื่อนในด้านเอกสารสิทธิ์ และข้อมูลที่ไม่ตรงกันไม่ได้มีการประกาศชัดเจนว่าพื้นที่ไหนคือโบราณสถานและพื้นที่ไหนกรรมสิทธิ์ของป่าไม้จึงทำให้มีเข้าใจคลาดเคลื่อนก็เป็นได้ วันนี้ขอสังคมอย่าพิพากษาครอบครัวจันทร์สว่างว่าเป็นอาชญากรร้ายแรง เมื่อศาลยังไม่พิพากษาพวกผมก็ยังบริสุทธิ์ และพร้อมพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน ผิดก็ว่ากันไปตามผิดครับ" นายกอง กล่าว