4 พฤษภาคม 2565 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 3 จังหวัด คือ จ.สกลนคร อุดรธานี และหนองคาย ร่วมกันแถลงการจับกุม
ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายสุชาติ แจ่มสว่าง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/3 หมู่ 6 ต.และ นายจิรเมธ กระสินธ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/9 หมู่ 9 ทั้งคู่เป็นชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสว่างแดนดิน โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองคนร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมตรวจยึดของกลางในการก่อเหตุได้หลายรายการ
พล.ต.ท.ยรรยง กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้ รู้จักกันในเรือนจำ เพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่นาน ก็มาร่วมกันก่อเหตุในพื้นที่รับผิดชอบ 3 จังหวัด 16 เหตุ คือ จ.หนองคาย 8 เหตุ จ.อุดรธานี 7 เหตุ และจ.สกลนคร 1 เหตุ ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2564 ถึง มี.ค.2565 ซึ่งมีผู้เสียหายแจ้งเหตุต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ ถือเป็นการก่อเหตุในพื้นที่รับผิดชอบที่เกิดต่อประชาชนจำนวนมากในหลายพื้นที่ต่อเนื่องกัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนต่อชีวิตทรัพย์สิน ก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อประชาชนเป็นอย่างมาก
“หลังจากได้รับการแจ้งเหตุจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ ได้ลงหาข่าว ทำให้เชื่อว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนคนเดียวกัน เนื่องจากมีพฤติกรรมการก่อเหตุคล้ายกัน คือ คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการกระทำผิด ซุ่มรอเหยื่อในที่เกิดเหตุ เมื่อพบผู้เสียหายที่สวมใส่ทรัพย์สินมีค่าจะลงมือก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำหรือกระเป๋าจากผู้เสียหาย หากผู้เสียหายขัดขืนจะทำร้ายข่มขู่เพื่อชิงทรัพย์ จากนั้นจะหลบหนี เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม จึงได้ทราบว่าคนร้ายทั้งสองเป็นใคร จึงวางแผนเข้าจับกุม”พล.ต.ท.ยรรยง กล่าว
จากการตรวจสอบประวัติข้อมูลอาชญากรรมบุคคลพ้นโทษ พบว่า นายจิรเมธ กระสินธ์ และ นายสุชาติ แจ่มสว่าง มีประวัติในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด วิ่งราวทรัพย์ ลักทรัพย์ และ พยายามฆ่า พ้นโทษมาเมื่อเดือนกันยายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานต่อศาลเพื่อขอหมายจับ จนงสามารถจับกุม นายจิรเมธและนายสุชาติ ขณะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และสามารถตรวจยึดทรัพย์สินที่คนร้ายได้จากการประทุษร้ายจากผู้เสียหายไปทั้งหมดมีทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 43 บาท พระเครื่องอัดกรอบทองคำหลายองค์ โทรศัพท์มือถือ เงินสด และ ทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า มูลค่า 14 ล้านบาท
“หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุมากกว่า 16 เหตุ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไปยังพื้นที่ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่รับผิดชอบด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้เสียหาย ส่วนสาเหตุที่มาก่อเหตุในพื้นที่ภาค 4 เนื่องจากภรรยาคนร้ายเป็น ชาวอ.บ้านดุง ส่วนทรัพย์สินของผู้เสียหายคนร้ายนำไปขายแล้วนำเงินมาใช้จ่าย”พล.ต.ท.ยรรยง กล่าว
ภาพ/ข่าว : กวินทรา ใจซื่อ สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคอีสาน