จอห์น โรเบิร์ตส์ หัวหน้าคณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารว่า ร่างความเห็นของศาลที่ระบุให้ล้มคำตัดสินคดีระหว่างโรกับเวด เมื่อปี 2516 ที่ชี้ขาดให้คุ้มครองสิทธิของผู้หญิงในการทำแท้งเป็นฉบับจริง หลังจากเว็บไซต์ข่าวการเมือง Politico เผยแพร่เนื้อหาของร่างฉบับนี้เมื่อคืนวันจันทร์ แต่ยืนยันว่าไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของศาล และเขาสั่งให้มีการสอบสวนการรั่วไหลของเอกสารดังกล่าวแล้ว
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นต่อร่างความเห็นของศาลสูงสุดว่า เขาเชื่อว่าสิทธิของผู้หญิงที่จะเลือกว่าต้องการทำแท้งหรือไม่ควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และคำตัดสินของคดีระหว่างโรกับเวดที่ให้สิทธิผู้หญิงทั่วสหรัฐฯ สามารถทำแท้งได้มานานเกือบ 50 ปี ไม่ควรถูกยกเลิก
นอกจากนี้เขายังเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งปกป้องสิทธิการทำแท้ง ด้วยการลงคะแนนเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือน พ.ย. เพื่อให้ได้เสียงข้างมากเข้าไปออกกฎหมายของสหรัฐฯ ที่จะคุ้มครองสิทธิการทำแท้ง
ส่วนผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านการทำแท้งหลายพันคน ไปรวมตัวที่ด้านนอกศาลสูงสุดในกรุงวอชิงตันดีซีตั้งแต่เมื่อคืนวันจันทร์ และยังชุมนุมต่อเนื่องเมื่อวันอังคาร เพื่อประณามหรือสนับสนุนร่างความเห็นของศาล
นอกจากนี้วุฒิสมาชิก อลิซาเบธ วอร์เรน จากพรรคเดโมแครต ร่วมประท้วงที่ด้านนอกศาลสูงสุดเมื่อวันอังคาร โดยตำหนิร่างความเห็นของศาลที่จะล้มคำตัดสินคดีระหว่างโรกับเวด และบอกว่ารู้สึกโกรธที่ศาลมีความคิดสุดโต่งเช่นนี้ พวกเขาคิดผิดที่จะบังคับใช้ความคิดสุดโต่งกับผู้หญิงทุกคนทั่วประเทศ
ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของวอชิงตันโพสต์และเอบีซีนิวส์ ที่จัดทำเมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าประชาชน 54% คิดว่าศาลสูงสุดควรคงคำตัดสินคดีระหว่างโรกับเวดไว้ และ 28% เห็นว่า ควรล้มคำตัดสินดังกล่าว
ร่างฉบับแรกของความเห็นศาลเขียนขึ้นในเดือน ก.พ. เป็นความเห็นกรณีที่รัฐมิสซิสซิปปีร้องขอให้ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ล้มคำตัดสินในคดีระหว่างโรกับเวด และการล้มคำตัดสินจะส่งผลให้ยุติการคุ้มครองสิทธิการทำแท้งภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และต่อไปนี้แต่ละรัฐจะมีอำนาจการตัดสินใจเรื่องการห้ามทำแท้ง ซึ่งส่งผลดีต่อต่อกฎหมายของรัฐมิสซิสซิปปีที่ห้ามการทำแท้งเกือบทุกกรณี หลังอายุครรภ์ครบ 15 สัปดาห์ หลังจากถูกศาลชั้นต้นของสหรัฐฯ สั่งระงับไว้