svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เชือดไก่ให้ลิงดูเซ่นอหังการปมอีสท์วอเตอร์

04 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เรื่อง"กล้วยเลี้ยงลิง" และ "พงศาวดารการเมืองลิง" แท้ที่จริงแล้วก็คือเรื่องเดียวกับข่าว "นายกฯสำรอง" ที่มีการปูดกันมาก่อนหน้านี้ 

จังหวะก้าวของเรื่องนี้นับว่าน่าสนใจ 

 

-หัวหน้าพรรคเพื่อไทยประกาศพูดคุยทุกฝ่าย รวมทั้งพรรคเศรษฐกิจไทย เพื่อหา 30 เสียงโหวตคว่ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

 

-นอกจากคว่ำในสภา ก็เดินคู่ขนานเรื่องยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าครบ 8 ปีแล้วหรือยัง 

 

-แกนนำพรรคเล็กขอเข้าพบ "บิ๊กป้อม" แต่ไม่ได้พบ จากนั้นจึงเกิดการนัดพบกับแกนนำฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย 

 

-พิเชษฐ์ สถิรชวาล ซึ่งวันนี้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ แต่สวมหมวกอีกใบเป็น "แกนนำกลุ่ม 16 ส.ส." นำทีมพรรคเล็กบางส่วนหารือแกนนำเพื่อไทย พร้อมประกาศโหวตสวนรัฐบาล จากประเด็น อีสท์วอเตอร์ แพ้ประมูลโครงการบริหารท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก มูลค่า 25,000 ล้าน ซึ่ง ส.ส.โจ้ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าเพื่อไทย ก็เตรียมยื่นซักฟอกรัฐบาลในประเด็นนี้ 

 

-แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ 

 

 

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์นี้ รัฐบาลมีสิทธิ์ล้มได้ตั้งแต่เปิดสภา ซึ่งจะมีการโหวตกฎหมายสำคัญฉบับแรก คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2566 เพราะเสียงสนับสนุนเริ่มแกว่งในกลุ่มพรรคเล็ก 

 

-เมื่อรัฐบาลอยู่ในสภาพตั้งรับ ก็มีคนจุดพลุเรื่อง "นายกฯสำรอง" ขึ้นมา ซึ่งจะว่าไป คนพูดคนแรก คือ  "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เอง จากนั้น "อดุลย์ เขียวบริบูรณ์" ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนเดือนพฤษภา 35 และผู้กองธรรมนัส ก็ออกมารับลูก ชู "บิ๊กป้อม" เป็นนายกฯสำรอง 

จนกลายเป็นปฏิบัติการ "ขย่มบิ๊กตู่ ชูบิ๊กป้อม" ซึ่งปฏิบัติการนี้ เชื่อกันว่ามีการใช้เงินใช้ทอง หรือที่เรียกว่า "กล้วย" เพื่อให้สำเร็จตามเป้า แต่จะสำเร็จจริงหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

นี่คือที่มาที่ไปของ "กล้วย" และเรื่อง "นายกฯสำรอง" ที่ทุกฝ่ายออกมาปฏิเสธกันพัลวัน แต่จังหวะก้าวมีมาเป็นลำดับตามที่ไล่เรียง หนำซ้ำวันที่ 4 พ.ค. แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย ส.ส.โจ้ ก็ยังจะนัดพบ "พิเชษฐ์ สถิรชวาล" อยู่ดี แม้จะมีเรื่องพวกนี้ปูดออกมาหมดแล้ว 

 

มาดูกันว่ารัฐบาลแก้เกมนี้อย่างไร 

 

เริ่มจากโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก 

 

-วันนี้มีกำหนดการลงนามในสัญญา ระหว่างกรมธนารักษ์ (เจ้าของพื้นที่) กับ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผู้ชนะการประมูล ซึ่งจะได้สิทธิบริหารแทน อีสท์วอเตอร์ ที่รับผิดชอบโครงการนี้มาร่วม 30 ปี 

 

-ปรากฏว่ามีการสั่งเลื่อนการลงนามในสัญญาออกมาไปอย่างไม่มีกำหนด โดยเป็นการสั่งด่วน ทั้งๆ ที่เตรียมการแถลงเรียบร้อยแล้ว เตรียมเช็คสั่งจ่ายมาแล้วด้วย ซึ่งรัฐจะได้รับเงินก้อนแรกทันที 743 ล้านบาท 

 

-อธิบดีกรมธนารักษ์ "ประภาศ คงเอียด" บอกว่า เลื่อนลงนามในสัญญาไปก่อน เนื่องจากสังคมยังมีความสงสัยและเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการคัดเลือกคู่สัญญา 

-นายกฯประยุทธ์ สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ให้เคลียร์ โดยเฉพาะที่มีการกล่าวหาว่าเป็นการประมูลที่ไม่โปร่งใส ไม่ทำ e-Bidding และไม่รอคำวินิจฉัยศาลปกครอง 

 

-สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ซึ่งกำกับดูแลกรมธนารักษ์ และตกเป็นเป้าโจมตีจาก พิเชษฐ์ รวมทั้ง ส.ส.โจ้ เพื่อไทย ถึงขั้นขึ้นบัญชีซักฟอก ออกมาชี้แจงเป็นฉากๆ 

 

1.อีสท์ วอเตอร์ มีสถานะเป็นบริษัทเอกชน ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ เพราะการประปาส่วนภูมิภาค ถือหุ้นแค่ 40% ไม่ได้ถือหุ้นเกินกึ่งหนึ่ง ฉะนั้น จึงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด แต่ไม่ใช่ถือหุ้นส่วนใหญ่ 

 

2.การเปิดประมูลทำให้รัฐได้ผลตอบแทนมากขึ้น คือ บริษัทที่แพ้ประมูล เสนอ 2.4 หมื่นล้านบาท และบริษัทผู้ชนะการประมูล เสนอ 2.56 หมื่นล้านบาท ตลอดอายุสัมปทาน 30 ปี 

 

3.ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง อีสท์วอเตอร์ เป็นผู้บริหารระบบท่อส่งน้ำภาคตะวันออก จ่ายค่าตอบแทนให้รัฐเพียง 552 ล้านบาท (ปีละหลักสิบล้าน) ซึ่งรมช.คลัง ตั้งคำถามว่า เงินส่วนต่างหายไปไหน (คำตอบคือ เป็นกำไรของ อีสท์วอเตอร์ ) 

 

4.ที่มีการพูดถึงการฟ้องศาลปกครอง ปรากฏว่าศาลยกคำร้องเรื่องที่ขอคุ้มครองชั่วคราวถึง 3 ครั้ง (แต่อีสท์ วอเตอร์ ชี้แจงว่าคดีหลักยังอยู่) 

 

5.กรณี พิเชษฐ์ ในฐานะ ส.ส.พลังประชารัฐ ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ ขอให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา สันติ ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค 

 

สรุปง่ายๆ ก็คือ รัฐบาลแก้เกมนี้ ด้วยการเลื่อนลงนามในสัญญา ยืนยันความโปร่งใส และเปิดข้อมูลว่า อีสท์ วอเตอร์ ต่างหากที่ให้ผลตอบแทนรัฐน้อยเกินไป จนต้องเปิดประมูล และสุดท้ายจะดำเนินการกับ ยพิเชษฐ์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ (ซึ่งพิเชษฐ์​เคยบอกก่อนหน้านี้ว่า พร้อมถูกขับออกจากพรรค) 

 

จากปมร้อนอีสท์ วอเตอร์ ยังมีอีกเรื่องที่รัฐบาลแก้เกม คือ เสียงสนับสนุนในสภา 

 

-ประธานวิปรัฐบาล นิโรธ สุนทรเลขา บอกเอาไว้น่าสนใจ "เสียงรัฐบาลยังปึ้ก" 

 

-มีข่าวจากวิปพรรคพลังประชารัฐ กรรมการบริหารพรรคจะประชุม 5 พ.ค.นี้ คาดมีวาระ พิเชษฐ์

 

-วิปรัฐบาลนัดประชุม 17 พ.ค. เช็คเสียงรอบสุดท้ายก่อนเปิดสภา เพื่อมั่นใจไม่มีใครโหวตสวน 

 

สรุปว่าพรรคพลังประชารัฐน่าจะเดินเกมเชือดไก่ให้ลิงดู โดยไก่ที่ว่านี้ ก็คือ "พิเชษฐ์ สถิรชวาล" เพื่อหยุดอหังการของบรรดาพรรคเล็ก ซึ่งเปรียบเสมือนลิง (รอกล้วย) 

 

แต่อีกด้านก็ระวังเข้าทาง ย้ายไปซบเศรษฐกิจไทย เสียงไม่หาย กลายเป็นเพิ่มให้ฝ่ายค้านในการโหวตล้มผู้นำรัฐบาลหรือไม่...ต้องรอดู

logoline