จากเหตุการณ์ ตาวัย 73 ปี เก็บร่างยายที่เสียชีวิตมา21 ปี แล้วขอร้องมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพ ให้มาช่วยทำพิธีศพ ทางศาสนาให้ เพราะวันถ้าตัวเองจากไปจะไม่มีใครทำพิธีให้
วันนี้ (1 พ.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่มายังบ้านของคุณตา ซึ่งอยู่ซอย รามอินทรา 23 พบเจ้าหน้าที่เพชรเกษมกรุงเทพ กำลังช่วยกันทำบ้านให้คุณทำและปรับสถานที่ภายนอกบ้านให้น่าอยู่กว่าเก่าสภาพโดยรอบเป็นที่รกร้าง
ร.ต.ชาญ จันทร์วัชรกาล อายุ 73 ปี (คุณตา) เล่าว่า ตาคบกับยายมาประมาณ50 กว่าปี แต่งงานกันมาได้ 3 ปี ยายก็เสียชีวิต จากโรคความดันโลหิตสูง และเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งจากที่ยายเสียชีวิต ตาก็ปรึกษากับลูกชายคนโตว่าจะเก็บร่างยายไว้
จากนั้นก็เก็บร่างยายมาถึงทุกวันนี้ แล้วเมื่อ 2-3 วัน ตาก็ได้ปรึกษากับลูกชายคนโตว่าต้องจัดพิธีศพให้ยายได้แล้ว เพราะชีวิตเราทุกคนต้องถึงวันสิ้นสุด ซึ่งเก็บต่อไปก็เหมือนของเก่า และขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพ ซึ่งอยู่ระแวงบ้านและรู้กัน ให้ทำพิธีศพทางศาสนาให้หน่อย ก่อนตาจะตัดสินใจเรื่องนี้ได้ใช้เวลาไม่กี่วัน แต่ได้คิดมาเป็นปีแล้ว
สำหรับสาเหตุที่เก็บศพภรรยาไว้เนื่องนาน เนื่องจากเป็นรักแรกตลอดเวลาที่คบกันไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง อยู่ด้วยความเข้าใจกันมาตลอด จึงทำใจไม่ได้กับการพลัดพราก คำพูดสุดท้ายของคุณตาที่มอบให้ยาย ตาพูดว่า มีประโยคเดียวที่จะมอบให้ยาย รักและเคารพ
นายสถิตย์ วงษ์ทอง อายุ 43 ปี (เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพ) กล่าวว่า ความประสงค์ของตาเริ่มต้นอยากให้เข้ามาช่วยทำความสะอาดบ้านที่มีศพของยายอยู่ ซึ่งจากนั้นทางมูลนิธิจึงแนะนำให้ตานำร่างของยายไป ฌาปนกิจทางศาสนา เพื่อส่งด้วยวิณญาณของยายไปที่ดีๆได้แล้ว ตาก็ตกลงแล้วเพราะตอนนี้แก่ก็แก่มากแล้วร่างกายก็ไม่ไหว แต่ขอให้เอาอัฐิของยายมาไว้และขอรูปขอของยายไว้ ทางมูลนิธิจึงได้ค้นประวัติแล้วก็ทำรูปขึ้นมาให้แก่ดู ซึ่งต่อจากนี้ทางมูลนิธิจะทำบ้านให้ใหม่และซื้อสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้ตา เพื่อให้ตามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น