รัสเซียคุมมาริอูโปลเกือบหมด-ขีดเส้นตายวางอาวุธ

โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ทหารรัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่ในเขตตัวเมืองในเมืองมาริอูโปล เมืองท่าริมชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนไว้ได้เกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงทหารยูเครนและนักรบต่างชาติที่ปักหลักสู้รบอยู่ในบริเวณโรงงานผลิตเหล็ก ในเขตอาซอฟสทาล 

และกองทัพรัสเซียยื่นข้อเสนอให้ทหารยูเครนและนักรบต่างชาติดังกล่าวที่เชื่อว่ามีราว 2,500 นายวางอาวุธภายในเวลา 6.00-13.00 น.ของวันนี้ตามเวลามอสโก หรือ 10.00 น.-17.00 น.ตามเวลาไทย โดยระบุว่า ทางเดียวที่จะรักษาชีวิตได้ คือ สมัครใจวางอาวุธและยอมแพ้  และคนที่ยอมวางอาวุธจะได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยเชลยสงคราม 

แต่ยังไม่มีรายงานการเคลื่อนไหวใด ๆ หลังผ่านพ้นไปสองชั่วโมงนับจากเริ่มเวลาเส้นตาย 10.00 น.วันนี้ตามเวลาไทย 
 

หากรัสเซียยึดมาริอูโปลได้จริงจะเป็นรางวัลใหญ่ที่สุด หลังจากทำสงครามยืดเยื้อมานานกว่า 50 วัน โดยเมืองนี้เป็นเมืองท่าสำคัญของภูมิภาคดอนบาส ที่รัสเซียมุ่งปลดปล่อยดินแดนของกบฏฝักใฝ่รัสเซีย 2 แห่งได้แก่ โดเนตสก์และลูฮันสก์ 

ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้ชาติพันธมิตรจัดส่งอาวุธหนักเพิ่มให้ยูเครนเพื่อรักษาเมืองนี้ไว้ และเตือนรัสเซียด้วยว่า หากกำจัดนักรบที่เหลือในมาริอูโปล จะทำให้การเจรจาสันติภาพต้องยุติลง ขณะเดียวกันเขาเตือนให้ทั่วโลกเตรียมพร้อมรับมือความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้ให้หลักฐานสนับสนุนคำอ้าง นอกจากบอกว่า บางประเทศเตรียมความพร้อมแล้ว เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ อิตาลีและตุรกี

ด้านกองทัพรัสเซีย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่รัสเซียเริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. เป็นต้นมา มีทหารยูเครนเสียชีวิตแล้วรวม 23,367 นาย และเฉพาะในเมืองมาริอูโปล ยูเครนสูญเสียทหาร นักรบท้องถิ่น และนักรบต่างชาติรวมกันกว่า 4,000 ราย และมีทหารยูเครนในมาริอูโปลยอมแพ้แล้ว 1,464 นาย

นอกจากนี้กองทัพรัสเซีย เปิดเผยว่า สามารถยิงเครื่องบินลำเลียงของกองทัพยูเครนตกในเมืองโอเดสซา โดยเครื่องบินดังกล่าวบรรทุกอาวุทยุทโธปกรณ์ที่ชาติตะวันตกจัดส่งให้ยูเครน