"นิพนธ์"ให้กำลังใจจนท.อำนวยความสะดวกปชช.ช่วงสงกรานต์

15 เมาายน 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามและตรวจเยี่ยมจุดตรวจในการดำเนินงานเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2565 ณ จุดตรวจหน้าที่ว่าการอำเภอนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมกันปฏิบัติงานในการอำนวยความสะดวกและให้บริการแก่นักท่องเที่ยวตลอดจนประชาชนผู้ใช้เส้นทางในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า ครั้งนี้ได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละ ที่ช่วยดูแลความปลอดภัยทางถนนให้กับประชาชน ทำให้ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตลดลง โดยภาพรวม 4 วันอันตรายสถานการณ์เป็นตามที่คาดการณ์ ซึ่งปีนี้ลดการสูญเสียลง 20% จึงเชื่อมั่นว่าถ้าสามารถรักษามาตรฐานนี้ไว้ เป้าหมายในการลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศสามารถทำได้อย่างแน่นอน ถ้าประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง คือ ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย

"สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ที่เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย และขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนในช่วง 1-2 วันนี้ เป็นช่วงที่มีการทยอยเดินทางกลับก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเพราะอาจอ่อนเพลียเหนื่อยล้าต้องหยุดพัก ซึ่งอาจทำให้เกิดการหลับในได้ โดยขอผู้เดินทางนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และขอเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้คุมเข้มโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุและมีผู้สูญเสียสูงสุด" นายนิพนธ์ กล่าว

นอกจากนี้ รวมถึงกวดขันปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทั้ง 3 กรณี ได้แก่ ขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัย ควบคู่กับการสร้างเพิ่มความเข้มข้นในการตั้งจุดตรวจ ด่านชุมชน จุดบริการในเส้นทางทั้งสายหลักและสายรองต่างๆ ให้เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ลดลงอย่างเป็นรูปธรรม และฝากถึงประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ภายใต้การรณรงค์ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" และให้ดำเนินงานควบคู่กับการรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19