svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดใจสาวเหยื่อถูกนักการเมืองใหญ่ข่มขืน ล่าสุดป่วยซึมเศร้า-รู้สึกไร้ค่า

14 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดใจสาวเหยื่อนักการเมืองใหญ่ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ปี 56 เผยเจอในงานอีเว้นท์พรรคก่อนพูดคุยคบหาวางใจเป็นเพื่อน แต่สุดท้ายถูกข่มขืนแม้จะพยายามขัดขืนทุกวิถีทาง จนตอนนี้ป่วยซึมเศร้า-รู้สึกตัวไม่มีค่า

เป็นประเด็นอื้อฉาวและร้อนแรงของวันนี้ (14 เม.ย.) กรณีที่มีนักศึกษาสาวรายหนึ่ง เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินี ว่า ถูกนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่ง ลวนลาม - กอดจูบ หลังหลอกมาคุยเรื่องงานและสอนหุ้น ที่ร้านอาหารชั้นดาดฟ้าภายในโรงแรมย่านสุขุมวิท โดย ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวระบุว่า ยังมีเหยื่ออีกหลายราย ที่ถูกกระทำลวนลาม อนาจาร และข่มขืน ในลักษณะนี้ (อ่านข่าว) 

 

 

เปิดใจสาวเหยื่อถูกนักการเมืองใหญ่ข่มขืน ล่าสุดป่วยซึมเศร้า-รู้สึกไร้ค่า

 

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับสาวรายหนึ่งที่เผยว่า ได้ตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยนักการเมืองคนดังกล่าว โดยหญิงสาวรายนี้เผยว่า เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2556 โดยตนรู้จักนักการเมืองคนดังกล่าวในงานอีเว้นท์ของพรรค ซึ่งทันทีที่พบกันนักการเมืองคนนี้ได้เข้ามาจีบ แต่ตนปฏิเสธเพราะมีแฟนแล้ว หลังจากนั้นนักการเมืองคนนี้ได้พูดคุยในลักษณะเพื่อนคบหากันมานานหลายปี ทำให้เกิดความไว้วางใจ
 

 

หนึ่่งเหยื่อสาวที่ถูกนักการเมืองใหญ่ข่มขืน

"วันเกิดเหตุเขานัดให้ไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท หลังทานข้าวเสร็จฝ่ายชายอ้างว่าลืมของ และพาไปที่เพนท์เฮ้าส์ ตอนนี้คิดว่าเป็นเพียงสำนักงาน แต่เมื่อไปถึงเพนท์เฮ้าส์ได้ถูกฝ่ายชายผลักเข้าห้องนอนและล็อกห้อง ก่อนที่จะใช้กำลังล่วงละเมิดทางเพศ

 

"หนูพยายามกรีดร้อง แกล้งชัก และบอกว่ามีแฟนแล้ว รวมถึงอ้างว่ามีประจำเดือน  แต่ฝ่ายชายไม่หยุด และพูดว่า" ยอมพี่เถอะ" เดี๋ยวพี่ซื้อรถ ซื้อของให้ แล้วจะเลี้ยงดูเอง หนูขัดขืนสู้แรงนานกว่า 3 ชั่วโมงแต่ก็ไม่เป็นผล" เหยื่อสาวเล่าเหตการณ์ให้ฟัง

 

 

จุดเกิดเหตุที่นักการเมืองใหญ่มักใช้ก่อเหตุกับหญิงสาว
 

สาวรายนี้ยังบอกอีกว่า หลังก่อเหตุแล้วถูกฝ่ายชายข่มขู่ว่า ตำรวจจะช่วยอะไรได้ เพราะพ่อมีอำนาจ ด้วยความกลัวจะถูกทำร้ายจึงไม่ได้เข้าแจ้งความ จากนั้นตนไม่ได้เจอกับฝ่ายชายอีกหลายปี จนกระทั่งมาพบกันอีกครั้งในงานอีเว้นท์ของพรรค ซึ่งฝ่ายชายได้นัดตนกินข้าวอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่ผ่านมา ซึ่งครั้งหลังตนได้ปฏิเสธและตัดขาดการติดต่อ

 

"รู้สึกโล่งใจและดีใจอย่างมากที่มีคนกล้าออกมาพูด เพราะตัวเองต้องเก็บกดมานานหลายปี กลัวว่าพูดไปแล้วจะไม่มีคนเชื่อ ตั้งแต่เกิดเรื่องก็เป็นโรคซึมเศร้าจนถึงทุกวันนี้ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า แต่คราวนี้ดีใจที่จะมีคนเชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสักที และเชื่อว่ามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อมากกว่านี้ จึงขอให้ทุกคนกล้าออกมาพูด รวมถึงนับถือคนที่ออกมาแจ้งความเป็นอย่างมาก ส่วนฝ่ายชายหากจะไม่ยอมรับผิดก็ไม่เป็นไร เพราะจะไม่มีผู้หญิงคนไหนหลงเชื่อแล้วตกเป็นเหยื่ออีกแล้วหลังจากนี้"
 

 

แชทร้องเรียนที่ทนายตั้มนำมาแสดงกับผู้สื่อข่าว

logoline