เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 มีนาคม 2565 ที่จังหวัดกำแพงเพชร ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามกรณีช่างภาพงานแต่งงานได้โพสต์เฟซบุ๊กชื่อว่า Tana Nop และโพสต์ภาพธนบัตรปึกใหญ่ พร้อมข้อความสินสอด 1 ล้าน หาย ช่างภาพ / ออแกไนท์ ซวย ... โดยข้อความได้ฝากถึงช่างภาพ และออแกไนซ์เซอร์ผู้จัดงานร่วมอาชีพว่า“ เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา ได้ไปเป็นช่างภาพในงานแต่งงาน และขณะเสร็จงาน และเก็บอุปกรณ์กลับบ้านต่อมา ออแกไนซ์เซอร์ ก็โทรศัพท์บอกว่า สินสอดของเจ้าบ่าวเจ้าสาวหายไปหนึ่งล้านบาท และพวกเราก็โดนเพ่งเล็งต้องไปให้ปากคำ” ซึ่งในข้อความยังระบุว่าแม่ของเจ้าสาวได้มาต่อว่าช่างภาพ ทำให้ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัย จนมีคนกดไลท์กว่า 3,000 คนและมีการแชร์กว่า 1,782 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสถานีตำรวจภูธรทรงธรรม ตำบลทรงธรรม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุทราบว่า มีการแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับกรณีนี้ เมื่อวันศุกร์วันที่ 25 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมาโดย ร.ต.อ.ชลากร ก้อนคำ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทรงธรรมเป็นเจ้าของคดี และในวันนี้ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องพ่อแม่ของเจ้าสาวมาให้ปากคำ แต่ไม่เปิดเผยกับสื่อมวลชน ในช่วงบ่าย
พ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร สั่งกำชับหัวหน้าสถานีและพนักงานสอบสวนให้ติดตามคดีนี้โดยเฉพาะหลักฐานในที่เกิดเหตุให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานวัตถุ ทางเข้าทางออกหน้าต่างประตูบ้านที่จัดงาน ตรวจสอบร่องรอยการงัดแงะ และความผิดปกติรายละเอียดของห้องที่ถูกนำสินสอดเข้าไปเก็บที่ห้องชั้น 2 ของบ้านจัดงานมงคลสมรส
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามไปยังช่างภาพของงานแต่งงานดังกล่าว มีชื่อเล่นว่าบอย (ไม่เปิดเผยชื่อจริง) เป็นชาวอำเภอพรานกระต่าย กล่าวว่า ในงานแต่งดังกล่าวเป็นช่างภาพคู่กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งงานแต่งงานเริ่มเช้าและเสร็จเที่ยงวันหลังหลังจากที่บันทึกภาพเสร็จแล้วก็เก็บ สัมภาระอุปกรณ์ถ่ายภาพที่วางอยู่หน้าห้องชั้นสองกลับบ้าน
ต่อมาออแกไนเซอร์ที่ว่าจ้างให้ตนไปเป็นช่างภาพก็โทรศัพท์มาบอกว่า เงินสินสอดของเจ้าบ่าวเจ้าสาวหายไป จึงได้แสดงความบริสุทธิ์ใจกลับไปที่บ้านงานแต่งงานอีกครั้ง ซึ่งก็เจอกับแม่ของเจ้าสาวและแม่ของเจ้าสาวยังได้ถามว่ากลับมากินหมูเหรอ มาพอดีเลยเงินหายไป 1,000,000 จะเอากันยังไง ทำให้ตนตกใจ เนื่องจากว่าไม่ทราบมาก่อนว่าเงินสินสอดได้หายไป ส่วนเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ไม่ได้คุยอะไรกับตน ขณะถ่ายภาพก็รู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยยินดียินร้ายกับภาพถ่ายสักเท่าไหร่เลย เหตุการณ์ดังกล่าวตน ก็พร้อมช่วยความร่วมมือกับเจ้าภาพและหากมีเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำก็ใช้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ส่วนสาเหตุที่ตนได้นำเหตุการณ์ดังกล่าวไปเผยแพร่บนสื่อโซเชียล เนื่องจากว่าต้องการเตือนให้เพื่อนเพื่อนที่มีอาชีพเดียวกันสุ่มเสี่ยงได้ระมัดระวังอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ ส่วนเรื่องของคดีทราบว่าทางผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ตนยังไม่ได้ถูกเรียกไปสอบปากคำ แต่คาดว่าน่าจะถูกเรียกตัวไปในเร็วเร็วนี้
อย่างไรก็ตามช่างภาพคนดังกล่าวนี้ เปิดเผยว่า ขณะบันทึกภาพเงินสินสอดซึ่งห่อพลาสติกเป็นธนบัตรตึกใหญ่วางอยู่บนพาน หลังจากเสร็จพิธีแล้วก็ได้ใช้ผ้าห่อ และแม่เจ้าสาวเป็นคนแบกเงินสินสอดจำนวนหนึ่งล้านบาท ขึ้นไปที่ห้องชั้นสอง ไปซึ่งตนได้เสร็จสิ้นภารกิจบันทึกภาพก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับห้องที่แม่เจ้าสาวแบกเงินสินสอดและหายตัวเข้าไปในห้องแต่อย่างใด คงเพียงเก็บอุปกรณ์สัมภาระถ่ายภาพที่วางอยู่ที่บริเวณหน้าห้องเท่านั้น ซึ่งตนมีภาพถ่ายที่บันทึกไว้ตลอดงานเป็นหลักฐานหากถูกเรียกตัวไปสอบก็จะนำไปให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองด้วย
ผู้สื่อข่าวได้รับทราบภายหลังว่าบ่าวสาวคู่นี้แท้ที่จริงแล้วเป็นสุภาพสตรีทั้งคู่ คนหนึ่งเป็นเจ้าบ่าวอยู่จังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าสาวเป็นคนจังหวัดกำแพงเพชรเป็นลูกของอดีตกำนัน ถือว่าเป็นผู้มีฐานะคนหนึ่งในหมู่บ้าน มีบ้านหลังใหญ่มีรอบรั้วขอบชิด ทำงานอยู่ทางจังหวัดภาคอีสาน และขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อทั้งคู่ได้ ซึ่งผู้สื่อข่าวมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ข่าว/ภาพ โดย พิพัฒน์ จงมีความสุข สำนักข่าวเนชั่น จ.กำแพงเพชร