svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

วิลปกป้องภรรยา แต่จะเสียออสการ์หรือไม่

29 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แม้ว่าวิล สมิธ จะขอโทษคริส ร็อก ต่อเหตุการณ์ "ตบสะท้านออสการ์" แต่เขายังไม่ได้ขอโทษโดยตรงแบบตัวต่อตัว ขณะที่แหล่งข่าวในอะคาเดมี่ อวอร์ด ระบุว่ากำลังมีหารือว่าจะยึดรางวัลคืนหรือไม่ ก็มีข่าวว่าคริส ร็อก ปล่อยมุกแซวจาดา พิงค์เก็ตต์ โดยไม่รู้มาก่อนว่าเธอเป็นโรคผมร่วง

แม้วิล สมิธ จะโพสต์ขอโทษคริส ร็อก อย่างเป็นทางการผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างอินสตาแกรมว่า การกระทำของเขาเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับและไม่อาจให้อภัยได้ ...รู้สึกอับอายจากการกระทำของตัวเอง และยอมรับว่าการกระทำของเขาล้ำเส้นและเป็นเรื่องที่ผิด แต่เว็บไซต์ข่าวกอสซิปวงการบันเทิง TMZ รายงานว่า ทั้งคู่ยังไม่ได้คุยกันเป็นการส่วนตัวเพื่อแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเพื่อนสนิทของร็อกบอกว่า หลังจากทำหน้าที่เสร็จร็อกได้กลับเข้าไปในห้องแต่งตัวและออกจากอาคารไป ส่วนมุกตลกที่สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจให้จาดา พิงค์เก็ตต์ เรื่อง "G.I.Jane" นั้น ก็เพราะเขาไม่ทราบว่าเธอเป็นโรคผมร่วง (alopecia) และแม้จะตัวสั่นและงงที่โดนตบ แต่เขาก็ยังไปร่วมงานงานเลี้ยงหลังพิธีแจกรางวัลที่ลอสแองเจลิส ซึ่งในงานเดียวกันสมิธก็ถือรางวัลทั้งร้องทั้งเต้นอย่างเต็มที่เช่นกัน 

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

A post shared by Will Smith (@willsmith)

 

แหล่งข่าววงในของสถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ (The Academy of Motion Picture Arts and Science) ซึ่งเป็นผู้จัดงานมอบรางวัลออสการ์ ระบุว่าแม้สถาบันจะออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของสมิธ และบอกว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางดำเนินการและบทลงโทษ โดยให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านจรรยาบรรณและกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของมหาชนชาวโซเชียล ที่มองว่าการกระทำของสมิธเป็น "พฤติกรรมที่อุกอาจที่สุดในประวัติศาสตร์ออสการ์" 

 

วิล สมิธ (ขวา) - คริส ร็อก (ซ้าย)

แหล่งข่าวระบุด้วยว่าการที่สมิธยังได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาทของริชาร์ด วิลเลียมส์ ในภาพยนตร์เรื่อง "King Richard" ทั้งที่เขาเพิ่งใช้ความรุนแรงก็เพราะ "ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ" ต่างนั่งกันอยู่คนละจุดของ Dolby Theater ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน ทำให้ไม่สามารถระดมสมองได้ทันก่อนที่สมิธจะขึ้นไปรับรางวัล เว็บไซต์ข่าวบันเทิง Variety รายงานว่า สมิธอาจโดนลงโทษทางวินัยหรือโดนแซงก์ชั่น แต่ไม่น่าจะถึงกับต้องคืนรางวัล 

 

จาดา พิงค์เก็ตต์  - วิล สมิธ

 

พฤติกรรมก้าวร้าวของสมิธยังถูกโยงไปถึงปัญหาครอบครัวและเรื่องราวในอดีต เขาเพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้วว่า พ่อของเขาซึ่งเป็นวิศวกรเครื่องกลเกี่ยวกับระบบทำความเย็นได้ทุบตีแม่ของเขา แต่ตัวเขาที่ยังเล็กก็ขลาดกล้วเกินกว่าจะเข้าไปช่วยแม่ อีกหลายปีต่อมาเมื่อพ่อป่วยเป็นมะเร็งและต้องนั่งวีลแชร์ เขาคิดจะฆ่าพ่อเพื่อแก้แค้นให้แม่ แต่ตอนที่อยู่บนเวทีออสการ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ เขาใช้คำว่า "ผมถูกขอให้รักผู้คน ปกป้องผู้คนและเป็นดั่งสายน้ำให้กับผู้คน" 

 

วิล สมิธ

ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตคู่กับจาดา พิงค์เก็ตต์ หลังแต่งงานกันเมื่อปี 2540 และถูกมองว่าเป็นคู่รักนักแสดงที่อยู่กันยาวนานที่สุดคู่หนึ่งของฮอลลีวูดนั้น ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เห็น โดยเฉพาะเมื่อปี 2563 ที่นักร้อง R&B ชื่อดัง ออกัสต์ อัลซินา ออกมาเปิดเผยว่าเขากับจาดาแอบมีความสัมพันธ์กันโดยตอนแรกทั้งคู่ปฏิเสธ แต่ต่อมายอมรับว่าเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปี ที่จาดากับสมิธแยกกันอยู่ โดยเขารู้จักเธอผ่านทางจาเดนลูกชายของจาดากับสมิธ แต่สมิธเพิ่งให้สัมภาษณ์นิตยสาร GQ เมื่อปีที่แล้วว่า "เราให้ความไว้วางใจกับให้เสรีภาพแก่กันและกัน โดยเชื่อว่าทุกคนต้องหาทางของตัวเอง" และบอกว่าวางแผนจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วย

 

ออกัสต์ อัลซินา - จาดา พิงค์เก็ตต์

logoline