เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านในพื้นที่บ้านป่าแดดใต้ ซอย 19 ม.7 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับปัญหาไม่มีน้ำประปาที่เป็นระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชน ใช้มากว่า 20 ปี แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ และมีท่อหลักของการประปาส่วนภูมิภาคผ่านหน้าซอย แต่กลับไม่ต่อเข้ามาในซอย 19 ที่มีบ้านอยู่ทั้งหมด 13 หลัง
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่สำรวจที่บ้านป่าแดดใต้ ซอย 19 ม.7 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อพบกับตัวแทนชาวบ้าน พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจในหมู่บ้านพบว่า ไม่มีท่อของการประปาส่วนภูมิภาคในพื้นที่จริง แต่บริเวณถนนผ่านหน้าซอย 19 มีท่อหลักของการประปาส่วนภูมิภาคผ่านและติดตั้งมาตรวัดน้ำให้กับบ้านแต่ละหลังเป็นที่เรียบร้อย โดยชุมชนดังกล่าวอยู่ห่างจาก บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ แม่เหียะ ไม่ถึง 5 กิโลเมตร ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมืองที่ยังไม่มีน้ำประปาใช้
นายสมิง สืบจิตต์ อายุ 67 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ในพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านอาศัยอยู่มากว่า 20 ปี เดิมทีเป็นที่ดินแบ่งขาย โดยในอดีตยังไม่มีท่อน้ำประปาส่วนภูมิภาค ใช้เป็นน้ำประปาของเจ้าของที่ดินจะมีแท็งค์น้ำอยู่ที่บ้านของเจ้าของที่ แต่พอเวลาผ่านไปชาวบ้านผ่อนที่ดินกับเจ้าของที่ดินหมด จนมีการโอนกรรมสิทธิ์เป็นชาวบ้านแต่ละคน พอท่อหลักของการประปาฯผ่านมา ทางเจ้าของที่จึงยกเลิกระบบน้ำประปาของตนเอง แต่ไม่ได้มีการประสานให้กับชาวบ้านคนอื่นๆ ทำให้การประปาส่วนภูมิภาคไม่ได้ต่อท่อเข้ามาในซอย 19
หลังจากนั้นชาวบ้านได้สอบถามกับทางการประปาส่วนภูมิภาค ได้รับคำตอบว่า การประปาไม่มีงบประมาณที่จะมาวางท่อให้ ชาวบ้านต้องจ่ายกันเองในราคาประเมินเบื้องต้นประมาณ 2 แสนบาท เฉลี่ยแล้วต้องจ่ายเงินกันหลังละหลายหมื่นบาท ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถจ่ายได้ชาวบ้านจึงแก้ปัญหาด้วยการเจาะน้ำบาดาลใช้เอง แต่ยังติดปัญหาในช่วงฤดูแล้งน้ำบาดาลมักจะแห้งทำให้ไม่มีน้ำใช้ อยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าแก้ไขให้ประชาชนด้วย
ด้าน นายสุพล เครือมโนรมย์ อายุ 67 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า เมื่อประมาณปี 2563 เคยเข้าไปร้องขอความช่วยเหลือจากเทศบาลตำบลป่าแดดไปแล้วหนึ่งครั้งแต่เรื่องเงียบไป แต่ไม่มีการตอบกลับมาเทศบาล ชาวบ้านได้ไปลองทำคำร้องใช้นำจากการประปาส่วนภูมิภาค ได้แต่คำตอบเดิมคือชาวบ้านต้องลงทุนเองในราคา 2 แสนบาท จึงอยากตั้งคำถามว่าทำไมระบบน้ำประปาที่เป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่ประชาชนต้องลงทุนเอง พอลงทุนเสร็จแล้วสมบัติกลายเป็นของรัฐ ทั้งที่การประปาได้รับงบประมาณมาจากภาษีประชาชนอยู่แล้ว เรียกว่าการประปาจะไม่ยอมเสียอะไรเลยหรือ ฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ฟังเสียงประชาชนตาดำๆ แล้วสั่งการ ให้หน่วยงานทีเกี่ยวข้องมาแก้ไขให้กับประชาชน
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้พาชาวบ้าน ไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับ นายรุ่งปรีชา ปั๋นแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดด ที่เทศบาลตำบลป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าของพื้นที่ โดยมีนายสิงห์วัน ไชยวงศ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลป่าแดด ให้การต้อนรับและรับเรื่องร้องเรียน พร้อมกับได้เชิญนายวิวิชชัย ศรีวิชัยศักดิ์ ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลป่าแดด และ นายอุทัย พวงขันแก้ว สมาชิกสภาเทศบาลตำบลป่าแดด เข้าร่วมรับฟังเรื่องร้องเรียน
นายสิงห์วัน ไชยวงศ์ กล่าวว่า เทศบาลไม่มีอำนาจในการวางระบบน้ำประปาให้กับชุมชนได้ เนื่องจากว่าท่อหลักเป็นของการประปาส่วนภูมิภาค ตามระเบียบแล้วทางการประปาส่วนภูมิภาคจะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด แต่อย่างไรจากที่ชาวบ้านร้องขอกับเทศบาลตำบลป่าแดด ทางเทศบาลจะประสานให้การประปาส่วนภูมิภาค เข้ามาสำรวจและประเมินราคาในการวางท่อประปา โดยเทศบาลจะนำงบประมาณดังกล่าวบรรจุเข้าแผนดำเนินงานปี 2566 เพื่อนำเงินไปให้การประปาส่วนภูมิภาคเข้ามาดำเนินการติดตั้งให้กับชุมชน พร้อมกันนี้จะมีการประสานผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 เพื่อขอเปิดทำประชาคม เพื่อสำรวจหาชุมชนที่ยังไม่มีน้ำประปาใช้ เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ข่าว / ภาพ โดย เกรียงไกร รัตนา ศูนย์ข่าวเนชั่นภาคเหนือ