svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ธ.ก.ส. ผนึก กอช. หนุน เกษตรกร-อาชีพอิสระ

21 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ธ.ก.ส. ร่วมกับ กอช. เดินหน้าส่งเสริมการออมเกษตรกร-อาชีพอิสระ ให้บริการออกสมุดเงินออมแก่สมาชิก กอช. ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศเพื่อใช้ตรวจสอบยอดเงินออม เงินสมทบจากรัฐและผลประโยชน์เพิ่มจากการออม สร้างความมั่นใจให้กับสมาชิก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาคม  เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือการให้บริการหน่วยรับสมัครสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ ระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ระบุว่า ภาครัฐให้ความสำคัญกับการวางแผนออมเงินของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยได้กำหนดให้การออมเป็นวาระแห่งชาติ มุ่งหวังให้ประชาชนได้มีความมั่นคงในบั้นปลายชีวิตหลังอายุ 60 ปี  พร้อมสร้างวินัยการออมในทุกช่วงวัย ผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ซึ่งถือเป็นกองทุนการออมภาคประชาชน เป็นกลไกส่งเสริมการออมของประชาชนที่เป็นแรงงานนอกระบบ  ไม่มีสวัสดิการรองรับ เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร ชาวไร่ชาวนา อสม. พ่อค้าแม่ค้า เพียงแค่สมัครเป็นสมาชิก กอช. ในส่วนของ ธ.ก.ส. เป็นธนาคารที่ให้บริการกับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะในภาคชนบท โดยยังมีการส่งเสริมการออมให้สถานศึกษาในรูปแบบโรงเรียนธนาคารแก่นักเรียน  ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ร่วมกันผนึกกำลังขับเคลื่อนส่งเสริมการออมให้ประชาชน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ  ได้มีการตระหนักถึงการวางแผนทางการเงิน  เพื่อให้มีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณโดยเฉพาะในวันที่ไม่มีแรงทำงาน จะได้มีเงินออมส่วนนี้ไว้ใช้จ่ายรายเดือน

ธ.ก.ส. ผนึก กอช. หนุน เกษตรกร-อาชีพอิสระ

ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ระบุ ธ.ก.ส. เล็งเห็นความสำคัญของการออม เพื่อสวัสดิภาพของประชาชนในด้านการวางแผนทางการเงิน โดยที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้เป็นหน่วยให้บริการ ทั้งการรับสมัครสมาชิก กอช.และ ส่งเงินออมสะสม  โดยมีบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (Direct Debit) รายเดือน ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ธ.ก.ส. ได้ให้บริการสมาชิก กอช. จำนวน 1,112,703 คน เป็นเงินจำนวนกว่า 2,645 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565)

 

ธ.ก.ส.หนุนสินเชื่อเกษตรแปลงใหญ่ วงเงิน 2 หมื่นล้าน

 

นอกจากนี้  ธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแปลงใหญ่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มและจัดหาปัจจัยการผลิตร่วมกัน  ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทั้งการผลิต การแปรรูป การรวบรวมผลผลิตเพื่อจำหน่าย โดยสนับสนุนเงินทุนให้แก่กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ค่าลงทุน วงเงินสินเชื่อรวม 20,000 ล้านบาท  อัตราดอกเบี้ยทั้งโครงการ 3.01% ต่อปี  โดยกลุ่มเกษตรกรฯจ่ายดอกเบี้ยเพียง 0.01% ต่อปี หรือล้านละร้อย  ทั้งนี้รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส.แทนเกษตรกร 2.875% ต่อปี  และธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยเอง 0.125% ต่อปี  ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีนับตั้งแต่วันกู้  เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2559 ถึง 30  มิถุนายน 2575  ปัจจุบันปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มเกษตรกรฯไปแล้ว 366  กลุ่ม เป็นเงิน 2,104.70 ล้านบาท  ในส่วนของพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 7 กลุ่ม  เป็นเงิน 8.14 ล้านบาท

 

สำหรับหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแปลงใหญ่  ต้องเป็นสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกร ที่รวมตัวกันตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป และมีพื้นที่การผลิต ทั้งประเภทพืชไร่ ยางพารา ข้าว ปาล์ม   ไม้ผล  พืชผัก  ไม้ดอก   ประมงและปศุสัตว์  รวมกันตั้งแต่ 300 ไร่ขึ้นไป 

ในส่วนของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตดอกเบญจมาศแปลงใหญ่บ้านตาติด ตำบลในเมือง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นตัวอย่างการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาการเกษตรแปลงใหญ่ที่สามารถลดต้นทุนการผลิต เช่น การซื้อปุ๋ย ยา กระดาษในการห่อดอกเบญมาศ  รวมถึงการขยายองค์ความรู้ในการผลิตต้นพันธุ์เอง  ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับสมาชิกกว่า 43 ราย  ที่สำคัญทำให้กลุ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ค้าและผู้ซื้อทั่วประเทศและเป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายดอกเบญจมาศในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างทั้งหมด  หากกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์ฯที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา

logoline