
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 มีนาคม 2565 น.ส.พิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง ได้รับแจ้งจาก นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลสะพลี ว่ามีชาวบ้านพบเต่าตะนุตาย บริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่น ม.8 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุอยู่หน้าโรงแรมนานาบิช พบเต่าตะนุ สภาพติดอยู่ในลอบหมึกของชาวประมงพื้นบ้าน ลำตัวจากหัวถึงปลายกระดองหลัง ยาว 65 ซม.กระดองจากขวามาซ้าย กว้าง 37 ซม.น้ำหนัก 36 กก.ตาถลน เปลือกผิวบนกระดองหลุดร่อน คาดตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน
โดยนายวัชรินทร์ ศรีสงคราม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/9 ม.6 ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นผู้แจ้ง บอกว่า ตนเองทำงานเป็นคนสวนอยู่ที่ โรงแรมนานาบีช กระทั่งมีนักท่องเที่ยวที่เข้าพัก แจ้งให้ไปช่วยเต่า ซึ่งลอยติดเครื่องจับปลาของชาวประมง จึงลงน้ำเข้าไปช่วยแต่พบว่าเต่าได้ตายขึ้นอืดแล้ว พร้อมลากขึ้นฝั่งในสภาพที่ติดอยู่กับลอบวางหมึกของชาวประมงชายฝั่ง แล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เต่าตะนุ คงจะเห็นถุงพลาสติกในลอบ คิดว่า เป็นแมงกะพรุน ซึ่งเป็นอาหาร จึงว่ายเข้าไปแล้วออกไม่ได้ พยายามดิ้นรนจนเปลือกกระดองหลุด และจมน้ำตายไปในที่สุด
สำหรับการวางลอบดักปลาหมึกของชาวประมงชายฝั่ง มักจะใช้ถุงพลาสติกที่เป็นสีขาวขุ่น ผูกตัวลอบด้านใน เพื่อดึงดูดให้หมึกว่ายเข้ามาเกาะถุงเพื่อวางไข่ ซึ่งชาวประมงก็จะได้ทั้งหมึกและไข่หมึก
ภาพ/ข่าว : ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร สำนักข่าวเนชั่น จ.ชุมพร