ผู้นำยูเครนวอนเยอรมนีช่วยหยุดสงคราม ทลายกำแพงแยกยุโรป

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แถลงต่อบุนเดสทาก หรือ สภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนีผ่านระบบวิดีโอในวันนี้ โดยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ช่วยหยุดสงครามในยูเครนจากการรุกรานของรัสซีย โดยเตือนความทรงจำถึงปฏิบัติการ Berlin Airlift ในช่วงต้นของสงครามเย็น ที่มหาอำนาจตะวันตกจัดส่งเที่ยวบินบรรทุกเสบียงไปช่วยเหลือประชาชนในเบอร์ลินตะวันตกเกือบทุกนาทีตลอด 24 ชม.ทำให้ไม่มีการทิ้งระเบิดโจมตีจากทางอากาศ ในขณะที่ยูเครนกำลังเผชิญทั้งระเบิดและขีปนาวุธจากรัสเซีย

นอกจากนี้เขายังเรียกร้องให้ผู้นำเยอรมนีทลายกำแพงยุคใหม่ในยุโรปที่แบ่งแยกระหว่างอิสรภาพและไร้อิสรภาพ ที่เยอรมนีมีส่วนช่วยสร้างขึ้นและโดดเดี่ยวยูเครน จากการทำการค้ากับรัสเซีย และตำหนิเยอรมนีที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัสเซียมากกว่าประชาธิปไตย รวมทั้งบอกด้วยมาตรการคว่ำบาตรต่าง ๆ ออกมาช้าเกินไปและไม่อาจช่วยยุติสงคราม และย้ำให้ตระหนักว่า  "สันติภาพสำคัญกว่ารายได้"

ถ้อยแถลงของเซเลนสกีมีขึ้นในขณะที่ยูเครนเผชิญการโจมตีอย่างหนักหน่วงจากรัสเซียอีกครั้ง เมื่อโรงละครในเมืองมาริอูโปล ที่มีชาวบ้านกว่า 1,200 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กหลบภัยอยู่ถูกโจมตีเมื่อวานนี้ ทั้งที่บนพื้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวอาคารมีตัวอักษรขนาดใหญ่เป็นภาษารัสเซียว่า "เด็ก" ปรากฎอยู่ และเบื้องต้นคาดว่า คนส่วนใหญ่ปลอดภัย แต่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวโทษว่า การโจมตีโรงละครเป็นฝีมือของกองพันอาซอฟ ซึ่งเป็นกลุ่มหัวรุนแรงขวาจัดของยูเครน

ขณะที่ในเมืองเชอร์นิฮิฟ ที่มีพรมแดนติดกับเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย ถูกโจมตีด้วยระเบิดและปืนใหญ่อย่างหนัก และทางการท้องถิ่น อ้างว่า ในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตมากถึง 53 ราย รวมถึงประชาชน 13 รายที่ยืนรอคิวซื้อขนมปังขณะถูกยิงถล่ม

นอกจากนี้กระทรวงวัฒนธรรมยูเครนยังเผยแพร่รายชื่อพิพิธภัณฑ์และโบสถ์ที่ถูกทำลายเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย พร้อมทั้งกล่าวหาว่า เป้าหมายของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คือ ทำลายชาติ วัฒนธรรมประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ของชาวยูเครน

อย่างไรก็ตามยูเครนยังคาดหวังว่าจะสามารถอพยพพลเรือนผ่านเส้นทางปลอดภัย 9 เส้นทางออกจากเมืองที่ถูกปิดล้อมรวมถึงเมืองมาริอูโปลได้ในวันนี้

ส่วนการเจรจาระหว่างยูเครนและรัสเซียเมื่อวานนี้มีการหารือประเด็นว่าจะยังคงกองกำลังทหารรัสเซียใน 2 สาธารณรัฐของกบฏแบ่งแยกดินแดนในภูมิภาคดอนบาส หลังสิ้นสุดสงครามหรือไม่ และเส้นแบ่งพรมแดนควรเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยูเครนยืนยันให้มีชาติตะวันตกที่มีนิวเคลียร์หนึ่งประเทศหรือมากกว่านั้นเข้าร่วมการเจรจาด้วย และขอให้มีเอกสารที่มีผลผูกมัดทางกฎหมายกำหนดเนื้อหาเรื่องหลักประกันด้านความมั่นคงแก่ยูเครน และยูเครนจะพร้อมเจรจาเรื่องสถานะชาติเป็นกลาง