9 มีนาคม 2565 นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวว่า วันนี้ (9มี.ค.) เป็นการประชุมครั้งแรก โดยคาดว่าจะมีการหารือในเรื่องของแนวคิด และจะกำหนดวันเวลาของการประชุม โดยเบื้องต้นจะเสนอกมธ.วิสามัญ ให้มีกำหนดการประชุมทุกวันพุธ เวลา 10.30-15.00 น. และในวันพฤหัสบดี 09.00-14.00 น.
ทั้งนี้ ได้ตั้งธงเอาไว้ว่าต้องการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่ก็ต้องเปิดโอกาสให้ทางกมธ.ได้ถกเถียงในประเด็นที่มีความเห็นไม่ตรงกัน โดยจากนี้จะเริ่มเดินหน้าพิจารณาทันที เพื่อไม่ให้กฎหมายเป็นเงื่อนไขปัญหาของความเห็นต่างหรือความขัดแย้ง ซึ่งจะขอใช้เวทีของกมธ.ในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ความเห็นออกมาเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
ส่วนข้อถกเถียงเกี่ยวกับหมายเลขผู้สมัครนั้น อย่างที่ทราบในกฎหมายเลือกตั้งอาจจะมีประเด็นที่ถกเถียงและเห็นต่างกันมาก แต่ทั้งหมดก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา แต่ความเห็นต่างเรื่องหมายเลขผู้สมัครนั้นเป็นสิ่งที่จะต้องมีการหารือกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องลงในรายละเอียดของกฎหมาย จึงยังไม่สามารถตอบได้ จำเป็นที่จะต้องเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ.
"หลักการพิจารณา ร่มใหญ่คือกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญที่แก้แล้ว ร่มเล็กคือร่างหลักและในแต่ละร่าง ที่จะต้องมาพิจารณาร่วมกัน ส่วนใครจะขอเสนอแก้ไข เพิ่มเติม หรือตัด อันนี้เป็นเรื่องของกรรมาธิการอยู่แล้ว และเสียงส่วนใหญ่จะร่วมกันพิจารณา ซึ่งเป็นไปตามกลไกของกรรมาธิการ" นายสาธิต กล่าว
ส่วนเมื่อผ่านการพิจารณาในวาระที่ 3 แล้วหากจะต้องส่งร่างกฎหมายไปยังองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาว่ามีส่วนใดขัดหรือแย้งหรือไม่นั้น กังวลว่าจะเป็นเหตุให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีปัญหาหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า การปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายก็ต้องเดินไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนความเห็นในวาระที่ 3 ยังเชื่อว่าหากผ่านกมธ.แล้ว ที่ประชุมร่วมรัฐสภา คงมีความเห็นแล้วให้ความเห็นชอบการแก้ไขของกมธ. เพราะกมธ.มาจากตัวแทนของทุกส่วน ทั้ง ส.ว. ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และพรรคการเมือง ซึ่งในเมื่อรัฐสภาตั้งตัวแทนเข้ามาร่วมพิจารณาแล้ว ก็หวังว่ารัฐสภาจะร่วมกันเห็นชอบ และทราบตามเสียงส่วนใหญ่และเสียงข้างน้อย
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการควบคุมการประชุมได้ เพราะทุกฝ่ายมีวุฒิภาวะ ส่วนการตกลงกันในแต่ละเนื้อหาและประเด็นที่เป็นเหตุผล เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องการให้กฎหมายนี้เสร็จโดยเร็ว และเข้าใจในกลไกของกมธ. จึงไม่กังวลอะไร เพราะในเวทีนี้มีข้อยุติ มีการลงมติในประเด็นที่ตกลงกันไม่ได้ ส่วนใครจะสงวนความเห็นก็เป็นสิทธิ ดังนั้น กลไกนี้สามารถเดินได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว