ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา" ที่วันนี้ (8 มี.ค.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เพื่อรับทราบความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนในคดี ใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งภายหลัง พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. พร้อม พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานะโฆษก บช.ภ.1 ได้แถลง โดยพล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้เชิญทีมสืบสวนสอบสวนมารายงานความคืบหน้าคดี โดยเฉพาะการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ทางนิติเวชวิทยา และทางพิสูจน์หลักฐาน
โดยขณะนี้ยังจำเป็นต้องรอระยะเวลา การตรวจชิ้นส่วน หรือพยานหลักฐานบางส่วน ที่จะต้องส่งไปตรวจตามแลปต่าง ๆ คงต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ บางส่วนได้ส่งแยกตรวจไปยังสถาบันอื่น ๆ ด้วย
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่อว่า จากพยานหลักฐานในขณะนี้ แนวโน้มทางคดีเป็นการประมาททำให้มีคนตาย โดยยังไม่มีการบ่งชี้ว่าเป็นการฆาตกรรม อีกทั้งพยานหลักฐาน ยังไม่ปรากฎว่ามีการใช้ยาเสพติด ทั้งผู้ที่อยู่บนเรือ และผู้เสียชีวิต จึงยังไม่มีการแจ้งข้อหาใครเพิ่มเติม แต่เพื่อให้สังคมสิ้นข้อสงสัย พนักงานสอบสวนยังรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะมีการแถลงปิดคดีเมื่อใด
ด้าน พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า ความคืบหน้าคดี ขณะนี้สอบพยานผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 77 ปาก พร้อมทบทวนหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ คือกล้องวงจรปิด 60 ตัว คลิปต่าง ๆ ที่ประชาชนส่งมาให้อีก 20 คลิป ซึ่งมีทั้งที่เป็นประโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์ ได้ส่งตรวจทางเทคนิคผลเป็นที่น่าพอใจ
ส่วนประเด็นอื่น ๆ วานนี้ได้ไปค้นบ้านของ “จ๊อบ นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร" พบพยานหลักฐานส่วนหนึ่งในคดี เป็นสุราที่ใช้ดื่มกินบนเรือวันเกิดเหตุจำนวนหนึ่ง ซึ่งพบทั้ง เหล้า ไวน์ แชมเปญ และแก้วส่วนหนึ่ง ได้ยึดมาไว้ตรวจสอบ ประกอบกับผู้ที่อยู่บนเรือทุกคน ให้การตรงกันว่า วันเกิดเหตุมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จริง ก่อนส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับรูปคดีพอสมควร
ส่วนที่มีการทิ้งแก้วเครื่องดื่ม สันนิษฐานว่า เกิดจากความกลัว ในทำนองเดียวกับการเมาแล้วขับ จึงพยายามทำลายหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และมีการนัดแนะคำให้การหลังเกิดเหตุ แต่เชื่อว่า ทุกคนต้องได้รับผลแห่งการกระทำ
พล.ต.ต.อุดร กล่าวต่อว่า จากคำให้การของบุคคลที่อยู่ในเรือหลายครั้ง ทำให้พอจะเห็นภาพขณะเกิดเหตุ ตั้งแต่คำให้การของ นายไพบูลย์ ศรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต ที่ยอมรับว่า ขับเรือไม่เป็น แต่อยากลองขับเรือ ทำให้มีจังหวะที่เรือกระชาก ขณะใช้ความเร็วเรืออยู่ที่ 8 น็อต จนทำให้แตงโมพลัดตกเรือ บริเวณกาบซ้ายด้านใต้ หลังทำธุระส่วนตัว และพยายามลุกขึ้นมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเสี้ยววินาที
จึงมีการส่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไปสอบทานกับภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อยืนยันเพิ่มเติมว่า บาดแผลของแตงโม เกิดก่อนหรือหลังเสียชีวิต เพราะมีผลต่อการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่า อีกประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะทราบผล รวมถึงผลการตรวจของกองพิสูจน์หลักฐาน คาดว่าจะใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์เช่นเดียวกัน
สำหรับความเร็วเรือที่ 8 น็อต เรือจะวิ่งไม่เรียบกับผิวน้ำ หากคนยืนก็จะเอนไปด้านหลัง ทั้งนี้จากคำให้การ 3 คน ตอนที่แตงโมยืน มี "ปอ" อยู่ข้างหลัง และมี "กระติก" อยู่ข้าง ๆ "ปอ" ก็จะคอยช่วยดัน “แตงโม” ประคองอยู่เสมอ เพราะทำท่าเหมือนจะล้มในลักษณะถอยหลัง หากบอกว่า "แตงโม" ปวดปัสสาวะ เรือซึ่งมีพื้นที่แคบและสั้น จะมีแรงส่งไปด้วยความเร็ว
เมื่อแตงโมจะไปปัสสาวะแล้วนั้น โดยมีแซนเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่นั่งอยู่กาบเรือด้านซ้าย ซึ่งหากลุกขึ้นยืนแล้วเรือจะมีการกระชากหรือไม่ มีพยานบางคนพูดว่า ในตอนนั้นมีความรู้สึกว่าเรือกระชาก ทำให้แตงโมเด้งออกไป ซึ่งจุดที่เด้งออกไปกับท้ายเรือมีความสูงไล่เรี่ยกัน และแตงโมตัวสูง การจะเด้งไปด้านหลัง หรือเด้งไปด้านข้าง มีโอกาสที่ใกล้เคียงกันมาก ซึ่งเป็นประเด็นว่าแตงโมเด้งไปทางด้านหลังแล้วจะเข้าไปในใบพัดได้หรือไม่ หรือการเด้งลงด้านข้างจะถูกใบพัดได้หรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
พล.ต.ต.อุดร กล่าวเพิ่มว่า ในที่ประชุมได้มีการต่อสายโทรศัพท์ไปหา "แซน" เพื่อให้เล่าเหตุการณ์ ตอนที่แตงโมมานั่งปัสสาวะ เสร็จแล้วพยายามลุกขึ้น รู้สึกได้ว่าเรือกระตุก เมื่อเรือกระตุก แตงโม ก็มีการเอียงตัวหลุดจากขา และตกลงไป ซึ่งตอนนั้นเกิดเหตุการณ์ขึ้นเร็วมาก เพราะเขาก็นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ท้ายเรือ ดูแชท ดูดาว สลับกันไปบ้าง แต่ยืนยันว่าแตงโมมาท้ายเรือ และบอกว่าปัสสาวะ ซึ่งมีทางจ๊อบก็เห็น
ทั้งนี้ตอนที่อยู่บนเรือกับปอ ปอได้ใช้มือดันหลังแตงโมไว้ในลักษณะคุยกันว่า ปวดฉี่แล้วได้เดินผ่านกลางลำเรือไป โดยมีโรเบิร์ตเป็นคนขับ มีจ๊อบนั่งข้างหลังโรเบิร์ต ซึ่งแตงโมได้เดินผ่านไปถึงแซนที่อยู่ท้ายเรือ โดยแซนก็ไม่ได้มอง ซึ่งกรณีดังกล่าว ผบ.ตร. ได้สั่งให้จำลองเหตุการณ์นี้อีกครั้ง ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อให้เกิดความแน่ชัด ส่วนเส้นผมที่เจอทาง กองพิสูจน์หลักฐาน ระบุว่าเก็บมาได้ 2 จุด 1.บนเรือ 2.กาบซ้ายของเรือที่จุดด้านข้าง และด้านใต้ทางขึ้น ตามคำให้การที่บอกว่าดาราสาว นั่งปัสสาวะอยู่บริเวณนี้
พล.ต.ต.อุดร ย้ำว่า ส่วนประเด็นสงสัยต่าง ๆ ของสังคม ตำรวจจะไม่ทิ้งประเด็นใด แต่หากเข้ามาพูดคุยและพิจารณาแล้วไม่มีความจำเป็นจะตัดทิ้ง ซึ่งมีเหตุผล และตรรกะของข้อหา รวมถึงพยานบุคคลที่สอดรับ และสอดคล้องกับรูปคดี ขอยืนยันว่าคลิปทุกคลิป รวมถึงหลักฐานที่ส่งมามีทั้งที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์
ส่วนที่ไม่มีประโยชน์ขอความกรุณา เพราะบางเรื่องเชื่อว่าบางคนได้ประโยชน์ โดยบางคนได้ประโยชน์กับการหากินกับศพผู้ตาย หรือวิธีการของแต่ละวิชาชีพที่นำมาใช้ทางโซเชียล ต้องขอความกรุณาด้วยว่า จะเป็นการบ่อนทำลายสังคม สังคมของเรากำลังจะไปในทิศทางที่ดี คดีจะออกมาในลักษณะที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
"ผมยืนยันว่าทุกฝ่าย ไม่ใช่ว่าน้องแตงโมเสียชีวิตแล้ว ผู้ต้องหา 2 คน จะต้องติดคุก หรือว่าคนที่ต้องถูกตั้งข้อหาว่าเป็นฆาตกรรม โดยที่เขาไม่ได้ทำ ฉะนั้นพนักงานสอบสวน ทำงานเป็นคณะทำงานมีหลายคน ที่ต้องระดมความคิด ให้ความคิดเห็นในเชิงที่เป็นมิติ ที่ทุกฝ่ายจะต้องรับฟัง และรับรู้ว่า มันไม่ง่ายที่จะสรุปคดีว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือประมาท หรือฆาตกรรม ในลักษณะที่คนหนึ่งคนใดที่มีข่าวว่า อย่าขอให้ตำรวจจับแพะแล้วกัน เป็นเรื่องที่เราถอดบทเรียน และมีบทเรียนมามากพอสมควร"
ส่วนประเด็นคลิปวงจรปิดบริเวณท่าเรือเทเวศร์ พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า คลิปบริเวณท่าเรือเทเวศร์ในช่วงเวลา 21.40 น. แต่ช่วงเวลาที่ตั้งโดยใช้จีพีเอสของเรือค่อนข้างชัดเจนว่า ถ้าผ่านสะพานพระราม 5 สะพานพระราม 7 สะพานพระราม 8 ซึ่งก่อนสะพานพระราม 8 จะเป็นท่าเรือเทเวศร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลา 21.40 น. แต่ช่วงเวลาที่เชื่อว่าจะเสียชีวิตคือช่วงเวลา 22.32-22.34 น.
ฉะนั้นการที่จะจับโยน หรือทิ้งอย่างที่มีใครบางคนพูด เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง เชื่อว่าวันหนึ่งทางกรรมาธิการ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็จะเชิญบุคคล ซึ่งเชื่อว่าคดีนี้จะต้องมีการโต้แย้งในอนาคต ไม่ว่าประเด็นอะไรก็ตามที่ตำรวจได้สรุปไป หรือแม้กรณีที่ทนายได้ดูรายละเอียดที่ตำรวจแถลงข้อเท็จจริงในคดีทั้งหมด จะถูกบันทึก และถูกโต้แย้งในชั้นศาล ซึ่งเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน
พล.ต.ต.อุดร กล่าวถึงกรณีโลกออนไลน์ระบุเรื่องผู้ตายรับงานเอนเตอร์เทรน ว่ายังไม่พบหลักฐาน ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่า ผู้ต้องหา ประสงค์จะบวชนั้น เมื่อได้รับการประกันตัว ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ก็มีสิทธิที่จะบวชได้ แต่ขึ้นอยู่กับทางวัดว่าจะอนุญาตหรือไม่
เมื่อถามว่าหลังจากที่ทั้ง 5 คนให้ปากคำไปแล้ว เชื่อว่ามีการเตี๊ยมกันมาก่อนหรือไม่ พล.ต.ต.อุดร ระบุว่า ถามว่าเตี๊ยมไหม ผมเชื่อว่าเตี๊ยม เพราะหลังจากเกิดเหตุในภาวะตกใจที่เพื่อนเสียชีวิต การเตี๊ยมต้องเกิดขึ้นแน่นอน แต่จากเรียกมาสอบแล้วพบว่าสำนวนของแต่ละบุคคลที่ไม่เหมือนกันอย่างมีนัยยะ วันหนึ่งเมื่อขึ้นสู่ศาลจะถูกพิสูจน์ทราบว่าให้การที่เป็นประโยชน์ ก็จะรอดพ้นจากบ่วงกรรมตรงนี้ไป แต่ให้การไม่เป็นประโยชน์จะต้องรับผลการกระทำในอนาคต
ขณะที่ พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ตราบใดที่ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่ออก ก็คงไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มเติม เอาเป็นว่าหลังจากตรงนี้แล้วมีอะไรเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จะเรียนเชิญสื่อมวลชนอัพเตสถานการณ์อีกที และขอยกเลิกแถลงข่าวรายวันไปก่อน