เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
พฤษภาคม นับเป็นเดือนร้อนเเรงทางการเมืองของไทยจนถูกมองว่า เป็นเดือนพฤษภาอาถรรพ์
เเละอาจจะเเรงร้อนเพิ่มขึ้นเนื่องจากความร้อนในคิมหันต์ฤดูที่อุณหภูมิเดือดได้ตลอดเวลาจนทำให้จิตใจของใครบางคนระอุตาม
ที่สำคัญต้องจับตาว่าครม.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้ไปต่อหรือจอดป้ายนี้
เพราะกรอบเวลาการเมืองในเดือนพฤษภาคมนั้นพบว่า วันที่ 22 พ.ค.2565 จะเปิดสมัยประชุมรัฐสภาเป็นเวลาสี่เดือนเเละในตอนนั้นอาจจะเกิดปรากฏการณ์ที่อาจคาดไม่ถึงชนิดนาทีต่อนาที
เเปลว่าเดือนพฤษภาคมปีนี้อาจเป็นจุดตัดวัดใจลุงตู่-กองเชียร์- ขั้วตรงข้ามว่าจะเกิดอะไรขึ้นบัางกับปฏิทินการเมืองไทยที่ต้องจารึกไว้
ยิ่งย้อนรอยประวัติศาสตร์เเล้ว พบการพลิกผันการเมืองไทยในเดือนที่ห้าตามปฏิทินสากล มักจะมีวาระร้อนๆบันทึกไว้ให้ศึกษาเสมอ
-รัฐบาลพรรคสามัคคีธรรมที่มารับไม้ต่อจากรสช.จอดป้ายการเมืองหมดสิทธิ์ไปต่อในเดือนพฤษาภาคมปี 2535 โดยที่พลเอกสุจินดา คราประยูร ลาออกจากตำเเหน่งนายกรัฐมนตรี จากเหตุพฤษภาทมิฬ
-รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภาวันที่ 9 พ.ค.2554 หลังจากฤดูร้อนเมื่อปี2553(เมษายน-พฤษภาคม)ครม.ชุดนั้น ทำงานเเทบไม่ได้เเละต้องมีศอฉ.มาปฏิบัติงานเเทนเเบบ กลายๆในการดูเเลการชุมนุมของนปช.เเละเกิดเหตุเผาเมืองเเละการเสียขีวิตของคนไทย โดยรอบปี2553-2554มีกระเเสบึ้ให้อภิสิทธิ์ไขก๊อก
-22พ.ค.2557 ผบ.ทบ.ในช่วงนั้นยึดอำนาจรัฐบาลนิวัตธำรง บุญทรงไพศาล ที่ทำหน้าที่ครม.รักษาการเเทนครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งนายกฯหญิงโดนศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หลังสั่งย้ายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสมช.โดยมิชอบ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นมีการยุบสภาเพราะเกิดการชุมนุมของกปปส.ประท้วงขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ลักหลับร่างกฎหมายนิรโทษกรรม โดยการชุมนุมมีเหตุรุนเเรงขึ้น เเละสองเเกนนำที่ยืนตรงข้ามเเละยืนฝั่งเดียวกับรัฐบาลไม่สามารถตกลงกันได้ ผบ.ทบ.ในตอนนั้นจึงยึดอำนาจเเละเกิดคสช.ในเวลาต่อมา
ดังนั้นเดือนที่ห้าตามหลักปฏิทินสากลนั้น ทุกคนจะรู้ว่าการเมืองไทยจะเคลื่อนตัวไปตำเเหน่งใดเเละใครมีส่วนร่วมในการชี้ชะตา อีกทั้งครม.เรือเหล็กจะต้องมีชะตาเช่นใดในยามนั้น