เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
ละสายตาไม่ได้จริงๆสำหรับลีลา "ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า" แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทยกับการยกหลักคำสอน "พรหมพินาศ 4" ขึ้นมาเผยแพร่ หลังจากที่ปรากฏข่าวหน้าสื่อว่า"3ป." ร่วมรับประทานอาหารกันอีกครั้งและเต็มไปด้วยความชื่นมื่น
บวกกับการปั่นข่าวของฝ่ายค้านที่ประเมินว่า "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" จะยุบสภาก่อนวันที่ 22 พ.ค.โดยอ้างสารพันเหตุผล ประกอบกับยามนี้แกนนำหลากพรรคลงพื้นที่ไปพบมวลชนและชิงกระแสข่าวผ่านสื่อให้สังคมรับรู้จนหลายคนมองว่า "สัญญาณยุบสภาน่าจะมาจริง...ในห้วงเดือนพ.ค.นี้"
แม้ในเวลาดังกล่าวน่าจะมีการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาและผู้ว่าฯกทม.ตามไทม์ไลน์ที่แกนนำรัฐบาลบางคนให้ข้อมูลไว้ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ก็ตาม ซึ่งดูจะมีความขัดแย้งกันชอบกล
แต่หากมองภาพรวมการเมืองทั้งกระดาน (โดยเฉพาะมุมมองของฝ่ายค้าน ) ขั้วตรงข้าม "พลเอกประยุทธ์"ประเมินว่า เวลาดังกล่าว "ลุงตู่" จะเจอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงนั้นแน่นอน บวกกับการแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญสองฉบับที่จะเริ่มลุยยกร่างกันในสัปดาห์นี้เริ่มปั่นกระแสกันแล้วว่าอาจจะมีการพลิกเนื้อหา และไม่ตรงตามเจตนารมณ์ตามมติที่ประชุมรัฐสภา
หลักใหญ่ใจความ ฝ่ายค้าน ประเมินว่า "ลุงตู่" มองว่าเสียเปรียบหากปล่อยให้ร่างกฎหมายสองฉบับนี้ผ่านและบังคับใช้ในการเลือกตั้งส.ส.ครั้งหน้า
อย่ามองข้ามช่วงเวลาดังกล่าวด้วย เนื่องจากร่างกฎหมายงบประมาณจะเข้าสู่วาระแรกของที่ประชุมสภาผู้แทนฯ บวกกับกระแสข่าวว่า รัฐบาลอาจจะขอกู้เงินเพิ่มอีกหนึ่งล้านล้านบาทไว้เป็นทุนสำรองเพราะมองแล้ววิกฤตรัสเซีย-ยูเครน และโควิด-19 ไม่น่าจะจบง่ายๆ
กอปรกับข้อมูลจากแกนนำพรรคพลังประชารัฐและเป็นหนึ่งในครม.คือ "ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์" รมว.ดีอีเอสย้ำล่าสุดว่านายกฯจะทำงานต่อจนกระทั่งการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพเสร็จสิ้น แปลความว่า รมต.คนนี้มองว่า "ลุงตู่จะยืนยาวไปจนถึงปลายปี จากนั้นค่อยมาคิดกันว่าจะยุบสภาเมื่อใด"
รวมทั้ง "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยชี้ว่า หากนายกรัฐมนตรีจะยุบสภานั้น เหตุปัจจัยมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น (เพราะโดยธรรมชาตินั้นเสียงของฝ่ายค้านไม่พออยู่แล้ว)
หากตีความสิ่งที่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ย่อมสอดคล้องต้องกันว่า พรรคร่วมรัฐบาลน่าจะลากกันไปยาวๆ และมองไปยังตัวเลขส.ส. 260 เสียง โดยอ้างไว้กับ"ลุงตู่"ว่าพร้อมสนับสนุนให้ไปต่อ อย่างไรก็ดี"ผู้กองคนดัง" ออกมาสวนกระแสดังกล่าวแล้วว่า "อย่านับรวม 18 เสียงของพรรคเศรษฐกิจไทยว่าหนุนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เด็ดขาด"
ตรงนี้ก็ขัดแย้งกับสิ่งที่ "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่า พรรคของร้อยเอกธรรมนัสหนุน"ลุงตู่" แน่นอนอย่างชัดแจ้ง
เมื่อพิจารณามุมมองแกนนำรัฐบาลทั้งสองคนให้ลายแทงการเมืองไว้ กับ ปรากฏการณ์เจาะเรือเหล็กด้วยฝีมือของผู้กองคนดังนั้น อาจวินิจฉัยขั้นต้นได้ว่า สถานการณ์ขณะนี้ "3 ป." พล.อ.ประยุทธ์ -พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ กลับมาเคลียร์ใจกันได้และน่าจะมั่นใจว่าเสียงหนุนรัฐบาลนั้นเพียงพอที่จะประคองตัวไปได้และมีแววที่จะอยู่ครบวาระสี่ปี โดย"ร้อยเอกธรรมนัส" น่าจะอ่านจังหวะดังกล่าวได้แล้วว่า ตอนนี้ข้อมูลเชิงลึกจากมูลนิธิป่ารอยต่อ มีมติออกมาอย่างไร รวมทั้ง"ผู้กองคนดัง"อาจมองว่า การเดินเกมที่ผ่านมาของตนนั้น "เสียเหลี่ยม"หรือไม่ จึงเกิดกลเกมยกคำพระมาเผยแพร่ให้เป็น "ปริศนาธรรมบทใหม่บนถนนการเมือง"
อาจแปลความทางการเมืองตอนนี้ได้อีกระดับว่า "ผู้กองคนดัง"น่าจะรู้แล้วว่าจะต้องรบชิงแต้มกับใคร และควรสัมผัสมือกับพรรคใดบ้างในวันข้างหน้าหากหวังที่จะได้ลุยต่อบนเวทีการเมือง
อีกประเด็น การขยับของ"ร้อยเอกธรรมนัส" เพลานี้ อย่ามองข้ามคนข้างกาย"ลุงตู่" อีกคนหนึ่งคือ "ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ"ที่ตอนนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จากที่อยู่เบื้องหลังออกมาคุมการเมืองเชิงลึกให้กับ"ลุงตู่" อีกชั้นหนึ่ง
"ดร.หิมาลัย"นั้นน่าจะรู้จังหวะของ"ร้อยเอกธรรมนัส"ว่า จะเดินหมากอย่างไร เพราะสองชีวิตนี้คือ "เพื่อนกัน"แต่จุดยืนทางการเมืองในยามนี้ "ยืนคนละมุม"
คนการเมืองบางคนให้ข้อมูลว่าจับตา"ดร.หิมาลัย"ให้ดีเพราะ"ลุงตู่"อาจมอบหน้าที่ตัวประกบให้เกาะติดม้าพยศ "ร้อยเอกธรรมนัส"แบบหายใจรดต้นคอ