ตอนนี้ยุทธศาสตร์ของผู้นำพลเอกประยุทธ์ ต้องการลากยาวนานที่สุดเพื่อเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคให้ได้ ซึ่งต้องผ่านด่านสำคัญคือศึกซักฟอกในเดือนพฤษภาคม แต่ต้องวางรากฐานในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย ตอนนี้การพึ่งพาพลังประชารัฐค่อนข้างที่จะลำบาก เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องสร้างพรรคใหม่เพื่อรองรับ
ระยะเวลาหลังจากนี้ไปจะเป็นการตัดสินใจรวมร่าง สร้างพรรค นี้ในแง่ของการดำเนินการไว้ใจในพรรคเศรษฐกิจไทยไม่ได้แล้ว รวมถึงพลังประชารัฐ ก็เป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกในการเมืองไทย พรรคที่เสนอนายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะหักนายกรัฐมนตรี ในขณะเดียวกันหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็ยังไม่แน่นอนว่าจะเอาอย่างไร ตอนนี้ 2 ป. ทิศทางคือสร้างดาวคนละดวง ดาวดวงหนึ่งพลังประชารัฐ ดาวอีกดวงต้องรวมร่างสร้างพรรคใหม่
ความจริงในตอนนี้ 3 ป.ไม่หลอมรวมกัน ไม่เหมือนตอนปี 62 ที่เหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน การเดินเกมทางการเมืองในการบริหารจัดการเพื่อสร้างเสถียรภาพของรัฐบาล ยังไม่มีท่าทีได้ข้อยุติ
ความนิยมของรัฐบาลลดลง
เพราะฉะนั้นบริบทในการทำงานหลังจากนี้ไป จะต้องทำอย่างไร
ไอ้โม่งในรัฐบาล บอกว่า ความพยายามรวมร่าง กวาดต้อนขุนพลที่กระจัดกระจายมามัดรวมกัน เหมือนนำแบงค์พันมามัดรวมปึ๊ง เพื่อแก้สมการบัตร 2 ใบ ที่จำเป็นต้องทำพรรคให้ใหญ่ ขืนปล่อยให้ต่างคนต่างเดินเป็นเบี้ยหัวแตกมีหวังไปไม่ถึงฝั่งฝัน จึงต้องหนีตายจากกติกาใหม่ ด้วยแนวทางนี้
เพราะฉะนั้นการที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปต้องรวมร่างที่กระจัดกระจายให้ได้มากที่สุด เขาบอกว่าตอนแรกจะรวมร่างที่พรรคไทยสร้างสรรค์ เป็นศูนย์รวมของส.ส. กทม.
เมื่อวันก่อนมีข่าวออกมาว่าหนึ่งในแกนนำเรียกประชุมด่วน ว่าจะทำกันอย่างไร
พรรคต่อมาที่จะไปรวมร่างกันคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ตอนนี้มีขุนพลที่เดินอยู่ 2 คน ปรพล อดิเรกสาร และเสกสกล อัตถาวงศ์
พรรคต่อมาที่อาจจะรวมร่างคือ พรรครวมพลังประชาชาติไทย
ถ้ารวมกันแล้วถ้าสามารถดึงจากพปชร.ที่มีอยู่ 97 เสียง เมื่อรวมหลายๆพรรค ต้องเอาส.ส.เป้าหมายหลักคือพรรคพลังประชารัฐเดิม กับเศรษฐกิจไทยจะแพแตก เพราะเศรษฐกิจไทยทั้งหมด อย่างมี 3-4 คนเป็นสปายอยู่ และทิศทางตอนนี้หลายคนบอกว่าปรากฎการณ์ตอนนี้ยังไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ให้เดินหน้าต่อไป
เพราะฉะนั้นแกนสำคัญตอนนี้คือ ภูมิใจไทย เสาหลักที่จะทำให้ฝ่าไปได้หรือไม่
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย บอกว่า 260 เสียง ฝันไปหรือเปล่า ผมไม่ได้ว่าใครแต่เอาตัวเลขมาจากไหน ใคร ๆ ก็นับมือได้ แต่ไม่มีพรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ในนั้นแน่นอน
จะไม่รับตำแหน่ง และไม่ใส่ใจกับตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้ค่อยว่ากันรัฐบาลชุดหน้า จะเดินหน้าต่อสู้เลือกตั้ง พรรคต้องเสนอและสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคตัวเอง ส่วนจะเป็นใครยังไม่ทราบ
ตอนนี้หลายพรรคต่างยืนยันว่า ในการเดินไปข้างหน้าพรรคจะต้องเข้มแข็ง และกติกาต้องเอื้อต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย ซึ่งขณะนี้มีหลายพรรคที่ทำการบ้านว่าต้องการส.ส.เท่าไหร่
เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งต้องรวมสรรพกำลัง เพราะสถานการณ์สมการตัวเลขสุ่มเสี่ยง
เพราะฉะนั้นการรวมสรรพกำลังมาอยู่ในที่เดียวกัน และสร้างขุมกำลังให้เข้มแข็งจึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะสร้างความมั่นใจหากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเดินหน้าต่อไป
ที่มา เนชั่นอินไซต์ โอ-บากบั่น บุญเลิศ , วี-วีระศักดิ์ พงษ์อักษร