svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ทนายตั้ม" เข้าให้ปากคำคดี "แตงโม" เสียชีวิต อวยพรแม่ขอให้ "เฮงเฮงปังปัง"

04 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ทนายตั้ม" เข้าให้ปากคำตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี คดี "แตงโม" เสียชีวิต เจ้าตัวบอกขออนุญาตแม่เสือกเป็นพยาน พร้อมอวยพรขอให้แม่ "เฮงเฮงปังปัง"

     วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อเวลา 19.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางมาให้ปากคำในฐานะพยาน คดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา" โดยก่อนเข้าให้ปากคำ ทนายตั้มเผยว่า ได้รับการประสานจากตำรวจให้การคาดใน 2 เรื่อง คือเรื่องที่ "ปอ-โรเบิร์ต" มาคุยกับตน และเรื่องการแจ้งเบาะแสให้ตำรวจตรวจสอบเพิ่มเติม

 

     ทนายตั้มกล่าวว่า สิ่งที่ตนต้องการให้ตำรวจตรวจสอบและทดลองคือ บาดแผลที่เกิดจากใบพัดและฟินเรือ ให้มีการทดลองในน้ำจริง ๆ ว่า จะเกิดรอยแผลอย่างไร อาจจะใช้เนื้อหมู หรือซิลิโคนในการทดลอง เพราะในหลายคดีการทดลองเช่นนี้ใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าตำรวจจะให้ความสำคัญหรือไม่ ส่วนที่ไปดูเรือวานนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เป็นวัตถุพยานที่จะบอกได้ว่า มีใครทำผิด ตนไม่ได้แตะต้องเรือของกลางแต่อย่างใด 

 

     เมื่อถามว่า วันนี้แม่ของแตงโมระบุให้อภัย "ปอ" และ "โรเบิร์ต"  รวมถึงมีการคำนวณสินไหมทดแทน 30 ล้านบาท ทนายตั้มกล่าวว่า ตนดูแล้วก็ค่อนข้างตกใจ ตนเองก็มีลูก หากเป็นลูกตนคงประเมินค่าไม่ได้ไม่รู้จะตอบอย่างไรกับแม่ของแตงโม ก็ได้แต่ขอให้ "เฮงเฮงปังปัง"


     ทนายตั้มย้ำว่า คดีนี้เป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้ แต่น้ำหนักทางคดีเมื่อขึ้นศาลจะเบาลง ถ้าแม่ซึ่งเป็นผู้เสียหายแถลงต่อศาลว่า ไม่ติดใจเอาความ มีการเยียวยา ศาลอาจให้มีการรอลงอาญา 
 

 

"ทนายตั้ม" เข้าให้ปากคำคดี "แตงโม" เสียชีวิต อวยพรแม่ขอให้ "เฮงเฮงปังปัง"

     เมื่อถามว่า แม่ของแตงโมมีการเรียกค่าเสียหายสามสิบล้าน ผู้ต้องหาจำเป็นต้องจ่ายทั้งหมดหรือไม่ ทนายตั้ม กล่าวว่า ถ้าจบได้ก็จบ แต่ถ้ามองว่าสูงไป หรือมองว่าที่ผ่านมาแตงโมไม่ได้อยู่กับแม่เลย ก็อาจเจรจาไม่จ่ายขนาดนั้น เพราะไม่ได้อยู่หรือเลี้ยงดูกันมา การจ่ายเงินเยียวยานั้น เป็นเหตุแก่การบรรเทาโทษได้ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ที่พี่ชายของแตงโมอีกคนว่า จะเอาอย่างไร หากศาลมีการยกฟ้องจะต้องจ่ายหรือไม่นั้น หากมีการยกฟ้องแสดงว่ามีการต่อสู้คดี แต่ตนคิดว่าไม่มีการสู้คดี หากมีการชดใช้ สารภาพ น่าจะปลอดภัยกว่า

 

     เมื่อถามว่า หลังจากที่แม่ให้อภัยผู้ต้องหาแล้วตำรวจจะสรุปคดีอย่างไร ทนายตั้มกล่าวว่า คดีนี้ตำรวจคงไม่น่าให้อภัยให้ จะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานต่อ ส่วนจะสนใจตามที่ตนบอกหรือไม่ก็แล้ว สุดท้ายเรื่องนี้จะไปจบที่การฟ้องศาล ถ้าสื่อสนใจตามต่อเรื่องนี้ต่อจะเป็นอีกแรงกดดันให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา 

 

     ทนายตั้มย้ำว่า คดีของแตงโมมีผู้เสียหายสองคน คือแม่และพี่ชาย ทั้งสองคนเป็นทายาทตามกฎหมาย ถ้าจะให้ดีพี่ชายต้องยอมความด้วย แต่น้ำหนักในคดีตอนนี้ลดลง เพราะแม่ยอมให้อภัยแล้ว ส่วนเบิร์ดแฟนของแตงโมนั้น ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสถือว่าไม่มีสิทธิ์อะไร และเชื่อว่าแม่ของแตงโมจะไม่แบ่งเงินเยียวยาให้ด้วย ดังนั้นสิ่งที่ตนอยากฝากถึงแม่ของแตงโมอีกครั้งคือ ขอให้เฮงเฮงปังปัง
 

 

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

     ทนายตั้ม ยังกล่าวถึงเงินประกันหนึ่งล้านบาท ที่แตงโมทำไว้ให้กับลูกของกระติกว่า อันนี้เป็นความประสงค์ของแตงโม ไม่มีใครสามารถไปแก้ไขได้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนรู้แล้วว่า ทำไมกระติกไม่สนใจแม่ของแตงโมตั้งแต่ต้น บางเรื่องก็พูดไม่ได้ เรื่องเงินประกันเป็นความประสงค์ของแตงโมว่าจะให้ใคร ฉะนั้นคนที่จะเปลี่ยนได้คือแตงโมเท่านั้น และจะต้องทำก่อนที่ลูกของกระติกจะมารับสิทธิ์ด้วย ดังนั้นเมื่อแตงโมเสียชีวิตแล้ว แม่ของแตงโมไม่สามารถยกเลิกได้ ซึ่งตรงนี้ทำให้ทนายตั้มต้องกล่าวย้ำอีกครั้งว่า "ตนถึงไม่มีทางเป็นทนายให้ฝ่ายใดเลย ที่ออกมาวันนี้ก็ทำเพื่อน้องแตงโม"

 

     เมื่อถามว่า แม่ของแตงโมจะไปขอจัดสรรเงินจากลูกกะติกได้หรือไม่ ทนายตั้มกล่าวว่า การจะเอาเงินผู้เยาว์จะต้องขอคำสั่งศาล คาดว่าศาลคงไม่ทำให้เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้เยาว์ ถ้าหากอยากได้เงินก้อนนี้ ต้องเอาเงินส่วนอื่น ๆ ที่เป็นส่วนตัวมาแบ่งกันถ้าทั้งสองฝ่ายยินยอม


     เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตคำให้การของพยานหรือไม่ หลัง "โบ TK" ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กระติกให้การไม่เหมือนกับที่เล่าให้เพื่อนฟัง ทนายตั้ม กล่าวว่า แม้ "โบ" จะเป็นเพียงพยานแวดล้อม แต่ก็น่าเชื่อว่าที่สิ่งที่กระติกเล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริง ถ้ากระติกมาพูดแล้วไม่ตรงกับคำให้การ ก็อาจโดนข้อหา "ให้การเท็จได้" ถ้าเรื่องนั้นเป็นสาระสำคัญในคดี 

 

     ทั้งนี้ทนายตั้มให้ความรู้ทางกฎหมายว่า คำให้การของผู้ต้องหาจะให้การเท็จอย่างไรก็ได้ ไม่ถือเป็นความผิด แต่ถ้าพยานให้การเท็จจะถือเป็นความผิด 


     ทนายตั้ม ยังกล่าวถึงการพบกันกับ "โรเบิร์ต ปอ และกระติก" ว่า เป็นไปตามที่เพื่อนของแตงโมเล่า ยืนยันว่า ตนคุยกับเพื่อนของแตงโมไม่เกิน 15 นาที โดยสิ่งที่เขาเล่าคล้ายกับที่พูดกับสื่อและคุยกับ "ปอและโรเบิร์ต" เท่านั้น ไม่ได้คุยกับกระติก และการพบกันดังกล่าวไม่ได้มีการขอให้ตนเป็นทนายในคดีให้แต่อย่างใด  

 

     เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่พบกับกระติกที่ร้านอาหาร กระติกเปิดบทสนทนาว่าอย่างไร ทนายตั้มกล่าวว่า กระติกได้ถามว่ามีใครจะถูกดำเนินคดีบ้าง ซึ่งตนได้บอกว่า มีสองคนที่จะโดนคดี คือคนขับเรือและเจ้าของเรือ เรื่องนี้ฝั่งเพื่อนแตงโมเขาออกมาพูดผ่านสื่อแล้วตนจึงเอามาพูดได้ นอกจากนี้ยังได้เล่าช่วงที่เกิดเหตุ  ซึ่งเวลาเพียงสิบหน้านาทีพูดได้ไม่มาก แต่ก็เหมือนกับที่เพื่อนของแตงโมให้สัมภาษณ์สื่อ และมองว่าเขากังวลอยู่ที่จะต้องถูกดำเนินคดี แต่ไม่ได้มีการพูดเรื่องการเปลี่นแปลงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด อีกทั้งก่อนหน้าเขาก็มีทนายอยู่แล้วจึงรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง การพบกับตนก็เพื่อขอฟังความเห็นเท่านั้น 

 

     เมื่อถามว่า วันที่พบกับ "ปอ โรเบิร์ต กระติก" ใครเป็นคนประสานให้ ทนายตั้มกล่าวว่า มีเพื่อนของตนที่รู้จัก "ปอและโรเบิร์ต" ประสานให้ ยืนยันว่า ทั้งหมดรู้อยู่แล้วว่าจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  ส่วนที่ต้องถามทนายก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเป็นการรู้ไว้ก่อนดีกว่า เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดอะไรขึ้น ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย และวันที่ทั้งหมดมาหาตนก็คืออีกวันแล้ว

 

     เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ สังคมจะทำอย่างไรต่อไป ทนายตั้มกล่าวว่า เรื่องนี้อย่าเห็นแก่ใคร แต่ควรเห็นแก่แตงโม ไม่ว่าเรื่องนี้จะจบเป็นเรื่องของอุบัติเหตุหรือไม่ก็ตาม แต่สังคมจะต้องตามต่อให้ความจริงปรากฎว่า เกิดเหตุอะไรขึ้น ถ้าความจริงปรากฎแตงโมจะได้สบายใจ

 

     ก่อนสิ้นสุดการให้สัมภาษณ์ ทนายตั้ม กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันประกอบพิธีร่างของแตงโม ตนจะพาทีมทนายไปร่วมส่งน้องขึ้นสู่สวรรค์ ส่วนวันนี้ขอนุญาตแม่ "เสือก" เป็นพยานในคดีก่อน
 

 

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

logoline