svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ยิ่งลักษณ์ ห่วงคนไทย วอน รบ.เร่งช่วย ถาม บิ๊กตู่ เจอหน้ายังคุยกันหรือเปล่า

28 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“ยิ่งลักษณ์” ยังห่วงคนไทย บอกแม้ตัวอยู่ไกล แต่ส่งกำลังใจ - ติดตามตลอด วอนรัฐบาลเร่งช่วยประชาชน บอกใครจะเป็นนายกฯ ต้องถามประชาชนก่อน รับหนักใจเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของไทย ถามกลับถ้า “ประยุทธ์” เจอหน้า “ยิ่งลักษณ์ “ยังคุยกันได้หรือเปล่า

     วันนี้ (28 ก.พ.) เวลา 10.00 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไลฟ์แลกเปลี่ยนความเห็น และตอบทุกคำถามคาใจแฟนเพจเฟสบุ๊กส่วนตัวชื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทย และสถานการณ์โดยรวม ทั้งด้านเศรษฐกิจว่า ตนได้มีการติดตามมาโดยตลอด ถึงแม้เราจะมาอยู่นี่เกือบ 4 ปี แต่ใจยังห่วงพี่น้องประชาชน ยังคงอ่านข่าวสารอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจราคาข้าวของสินค้าที่แพงขึ้น แต่เงินในกระเป๋าหรือรายได้ของประชาชนไม่ขึ้น รวมถึงค่าแรงงาน

 

    และช่วงลำบากยังเจอสภาวะโรคระบาดโควิด-19 เป็นเหมือนการซ้ำเติม เรารู้ว่าประชาชนไม่มีทางออก ทั้งยังนึกถึงว่าเราก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเพราะเราอยู่ไกลและไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว จึงได้แต่ส่งกำลังใจและติดตามตลอดหวังว่าอยากให้ทุกคนช่วยกัน เข้มแข็ง และขอร้องรัฐบาลว่าให้ช่วยประชาชน เพราะทุกคนลำบากจริง ๆ

 

     เมื่อถามว่าอยากเป็นนายกฯ อีกสักสมัยหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ตอนนี้หมดยุคแล้วหรือไม่ ตอนนี้เป็นรุ่นของคนรุ่นใหม่และสมัยใหม่แล้ว เด็กรุ่นใหม่มีความสามารถเยอะ แล้วตอนนี้ตนก็อายุ 50 กว่าแล้ว ใกล้จะปลดระหว่างแล้ว แต่อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีจะต้องอยู่ที่พี่น้องประชาชน เราจะบอกว่าเอาใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้หรอก ต้องฟังเสียงประชาชนว่า เค้าอยากให้ใครมาบริหารประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

 

     ทั้งนี้ประเทศไทยมีคนที่มีความรู้ความสามารถมาก ส่วนตัวของตนไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็อยากจะช่วยเหลือประชาชน ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศบ้านเกิดเรามีความรักมีความผูกพัน แม้ว่าตัวจะมาอยู่ที่นี่แต่ใจยังอยู่ที่ประเทศไทยตลอดเวลา
 

 

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

     เมื่อถามว่า ลองจินตนาการหรือไม่ว่าหากยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ นโยบายที่น่าสนใจอะไรที่อยากออกมา นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่างน้อยตอนนั้นนโยบายหลายหลายอย่างที่ได้ออกไปแล้ว จะต้องมีการสานต่อให้เสร็จ โดยเฉพาะโครงการใหญ่ ๆ เช่น 2.2 ล้านล้าน รถไฟความเร็วสูง ในตอนที่เป็นรัฐบาลปีที่ 3-4 เราคิดในเรื่องของการวางอนาคตข้างหน้า เพราะช่วง 1-2 ปีแรก เรามุ่งการแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สินหรือเรื่องรายได้ให้กับประชาชน รวมถึงวางเรื่องยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อสร้างความแตกต่างของแต่ละจังหวัด และกระจายความเจริญเมืองหลวงไปยังภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม

 

     แต่สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสได้สานต่อ และนโยบายบางตัวที่ได้มีการริเริ่มไปแล้ว ก็ถูกยกเลิกไป ซึ่งเราก็รู้สึกเสียดาย เช่นแทบเล็ต ตนได้มีการติดตามข่าวว่ามีนักศึกษาฆ่าตัวตาย เพราะกลุ้มใจในเรื่องของการเรียนออนไลน์ ซึ่งเราไม่อยากเห็นข่าวเช่นนี้ ซึ่งมีการแจกไปแล้วแต่ไม่มีการใช้อย่างต่อเนื่อง และต้องขอแก้ข่าวว่าแท็บเลตในช่วงนั้น ไม่มีการบรรจุเกมส์เข้าไปเลย ซึ่งจะเป็นระบบในการเรียนเท่านั้น ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงในตอนนั้นเรามีการพูดคุยร่วมกัน 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว จีน ตั้งใจว่าความเร็วลงความเร็วสูงจะเชื่อมเมืองต่อเมืองในประเทศไทย เพื่อให้การคมนาคมสะดวก และเชื่อมเมืองท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดรายได้ รวมถึงเรื่องโลจิสติกส์ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน  

 

 

ยิ่งลักษณ์ ห่วงคนไทย วอน รบ.เร่งช่วย ถาม บิ๊กตู่ เจอหน้ายังคุยกันหรือเปล่า
 

     เมื่อถามว่า เมื่อปี 2011 เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ตอนนั้นหนักใจหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ยากอยู่แล้ว เพราะตอนนั้นมาบริหารบ้านเมืองในยามที่เกิดความขัดแย้ง ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยก็เยอะเราต้องมาสานต่อ เรื่องหนี้สินของพี่น้องประชาชน ความยากของปัญหาเศรษฐกิจ และจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน

 

     และการเป็นผู้หญิงยิ่งลำบากขึ้น เพราะความคาดหวังมีเยอะ และเมื่อเป็นผู้หญิงเขาไม่ได้มองว่าเราจะอาศัยความรู้ความสามารถประสบการณ์ความตั้งใจจริงมาทำงาน แต่จะมองในเรื่องเพศหญิง อาจจะทำไม่ได้ อ่อนแอซึ่งเราต้องอดทนและทำงานหนักเป็นสองเท่า เพื่อพิสูจน์ว่าเราทำได้ เราอดทน ความเป็นผู้หญิงไม่ได้ทำให้งานลดน้อยถอยลงไป 

 

     โดยเฉพาะการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมถือว่าท้าทายมาก เพราะต้องทำงานกับเหล่าทัพ ซึ่งยอมรับว่าหนักใจ ศาลทหารจะเป็นอีกอย่างหนึ่ง ฉะนั้นการสั่งงานและการสั่งงานจะต้องใช้ข้อกฎหมายในการสั่งงาน เพราะถ้าไปสั่งตรงตรงเขาคงไม่ทำ เพราะเขามองว่าเราไม่มีอำนาจ และทำบางส่วนที่เกินกว่าอำนาจไม่ได้ และเขาต้องทำในหน้าที่ของเขา เราต้องใช้กฎหมาย เช่น การสั่งเหล่าทัพต้องนั่งในส่วนของสภากลาโหม หรือวางนโยบาย ถ้าอยู่ ๆ โทรไปบอกอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องงานก็ทำไม่ได้ เขาไม่ปฏิบัติตาม 

 

     เมื่อถามว่าถ้าเจอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะคุยได้หรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ถามกลับว่า “ต้องถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าหากเจอหน้ายิ่งลักษณ์ ยังคุยกันได้หรือเปล่า?”

 

     เมื่อต่อก็ถามว่าหากพูดถึงชื่อ ยิ่งลักษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะอารมณ์เสียก็ได้ ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า “นั่นสิ เราก็เปลี่ยนเรื่องก็ได้นะ หรือแฟนขับอาจจะไม่ถูกใจบอกอยากคุยต่อ” 
 

 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

logoline